โลกรุมประณามหลังรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มทั่วยูเครน 'ปูติน'ลั่นสังการเอง
รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มทั่วยูเครน 'ปูติน'ลั่นตอบโต้การก่อการร้าย ขณะปธน.สหรัฐ -เลขาธิการฯยูเอ็น-นาโต้ รุมประณามรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายพลเรือนในยูเครน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตจำนวนมาก
กองทัพรัสเซียใช้ทั้งขีปนาวุธ โจมตีทางอากาศ และโดรนโจมตีกรุงเคียฟและอีกหลายเมืองทั่วยูเครนอย่างหนักหน่วง มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 ราย ผู้นำรัสเซียระบุเป็นการตอบโต้ต่อการก่อการร้ายระเบิดบนสะพานในไครเมีย
ทางการยูเครน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เช้าจนถึง 14.00 น. ของวันจันทร์ (10ต.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น รัสเซียยิงขีปนาวุธ 84 ลูก และใช้โดรน 24 ลำโจมตีใน 8 แคว้นของยูเครน แต่กองทัพสามารถทำลายขีปนาวุธ 43 ลูกและโดรนอีก 13 ลำ
ขณะที่มีรายงานว่า เสียงระเบิดดังสนั่นทั่วกรุงเคียฟ และการโจมตีด้วยขีปนาวุธและจรวดทั้งในเมืองคาร์คีฟ, ลวีฟ, มิโคเลฟ และดนีโปรเปตรอฟสก์ โดยส่วนใหญ่พุ่งเป้าทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนที่สำคัญ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และมีรายงานเกิดไฟฟ้าดับและน้ำประปาไม่ไหลในหลายมืองใหญ่ รวมถึง เมืองลวีฟ และเมืองคาร์คีฟ
สำนักงานบรรเทาภัยฉุกเฉิน เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 รายและผู้บาดเจ็บ 64 รายจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียทั่วยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวในคลิปที่เขาบันทึกขณะอยู่นอกทำเนียบประธานาธิบดีว่า รัสเซียมุ่งสร้างความตื่นตระหนกและความโกลาหล ทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และสร้างความสูญเสียต่อประชาชนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวระหว่างการประชุมสภาความมั่นคงว่า การโจมตีในวันนี้เป็นการตอบโต้การโจมตีของยูเครนบนสะพานเคิร์ช ที่เชื่อมไครเมียกับรัสเซีย และการโจมตีอื่น ๆ ในรัสเซีย ที่ถือว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย เขาระบุว่า กองทัพใช้อาวุธที่มีความแม่นยำโจมตีจากทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก โดยมุ่งเป้าที่โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานและกองบัญชาการทหาร และหากยูเครนยังคงโจมตีต่อไป รัสเซียก็จะตอบโต้รุนแรงในระดับเดียวกัน
ด้านนานาชาติร่วมประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยโฆษกของโจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป แถลงว่า อียูขอประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุดต่อการโจมตีอย่างป่าเถื่อนต่อพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน และเจมส์ เคลฟเวอร์ลี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ บอกว่า การยิงขีปนาวุธในพื้นที่ของพลเรือนในยูเครนเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ และสะท้อนถึงความอ่อนแอของปูติน ไม่ใช่ความเข้มแข็ง
สถานทูตสหรัฐ ในกรุงเคียฟ เรียกร้องให้พลเมืองที่อยู่ในยูเครนขณะนี้ พยายามอยู่ในเคหะสถาน และอพยพออกจากยูเครนด้วยการเดินทางทางบกด้วยตัวเองหากสามารถทำได้อย่างปลอดภัย
ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ประณามการที่รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายพลเรือนในยูเครน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
"สหรัฐขอประณามอย่างรุนแรงต่อการที่รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตียูเครนในวันนี้ ซึ่งได้ทำให้พลเรือนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่มีการโจมตีเป้าหมายที่ไม่ใช่ทางทหาร สิ่งนี้เป็นการแสดงถึงความโหดร้ายอีกครั้งหนึ่งของประธานาธิบดีปูตินในการทำสงครามที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อชาวยูเครน" แถลงการณ์ระบุ
ขณะที่โฆษกของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า นายกูเตอร์เรสรู้สึกช็อกต่อการที่รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายพลเรือนในยูเครน
ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียดังกล่าวนับเป็นการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดต่อยูเครน นับตั้งแต่ที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในเดือนก.พ.
"ท่านเลขาธิการฯ กล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และจะเพิ่มความตึงเครียดต่อสถานการณ์ ขณะที่พลเรือนเป็นฝ่ายที่ต้องรับผลกระทบดังกล่าว" โฆษกกล่าว
นอกจากนี้ องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ออกแถลงการณ์ประณามรัสเซีย หลังทำการยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายพลเรือนหลายจุดทั่วประเทศยูเครนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
"ผมได้หารือกับท่านรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนแล้ว และเราได้ประณามการที่รัสเซียโจมตีเป้าหมายพลเรือนอย่างโหดร้ายและไม่เลือกหน้า ขณะที่นาโตจะยังคงให้การสนับสนุนยูเครนในการตอบโต้การรุกรานของรัสเซียต่อไปไม่ว่าจะนานเพียงใด" นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ระบุในทวิตเตอร์