ฝรั่งเศสประท้วงหยุดงานทั่วประเทศ ขอขึ้นค่าจ้างสู้เงินเฟ้อ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหภาพแรงงานฝรั่งเศสเริ่มประท้วงหยุดงานทั่วประเทศในวันนี้ (18 ต.ค.) เพื่อเรียกร้องให้ขึ้นเงินเดือนท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงในรอบหลายสิบปี สร้างความท้าทายอย่างหนักต่อประธานาธิบดีฝรั่งเศส ‘เอ็มมานูเอล มาครง’
การประท้วงหยุดงาน เป็นการขยายเวลาดำเนินงานในภาคอุตสาหกรรมไปอีกหลายสัปดาห์ โรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ของฝรั่งเศสหยุดชะงัก และทำให้ซัพพลายของปั๊มน้ำมันเกิดความความระส่ำระสาย ซึ่งในช่วงแรกอาจกระทบกับภาครัฐ เช่น โรงเรียน และการคมนาคม
สหภาพแรงงานซีจีที เรียกร้องให้มีการผละงานต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ในบริษัทโททาลอีเนอร์ยีส์ แม้บริษัทน้ำมันบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเงินเดือนให้พนักงาน 7% และเพิ่มโบนัส เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ต.ค.) แต่สหภาพแรงงานต้องการให้บริษัทขึ้นค่าแรง 10% โดยอ้างถึงเงินเฟ้อ และกำไรก้อนใหญ่ของบริษัท
นอกจากนี้ สหภาพแรงงานกลุ่มข้าราชการ ก็เข้ามาร่วมประท้วงหยุดงานในวันนี้ด้วย ทำให้เกิดความวุ่นวายในโรงเรียน และสถานที่สาธารณะอื่นๆ อีก
ทั้งนี้ ผู้นำสหภาพแรงงานหวังว่า แรงงานจะได้รับข้อเสนอที่น่าพอใจเพื่อให้แรงงานบางส่วนได้กลับไปทำงานในบริษัทน้ำมัน เพื่อให้เชื้อเพลิงหมุนเวียนได้ปกติอีกครั้ง
ด้านโอลิเวียร์ เวรอง โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส กล่าวว่า มีการร้องขอแรงงานเพิ่มขึ้นในระหว่างวัน เนื่องจากผู้ขับขี่ยังคงต่อแถวอยู่หน้าปั๊มเพื่อรอซื้อน้ำมัน ซึ่งถือว่าไม่ใช่สถานการณ์ที่ปกติ
ส่วนตัวแทนสหพันธ์เหมืองแร่ และพลังงานแห่งชาติ (FNME-CGT) กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า (17 ต.ค.) การประท้วงหยุดงานจะกระทบการทำงานในโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 10 แห่ง ทำให้การซ่อมบำรุงเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ล่าช้า 13 เครื่อง และการผลิตกระแสไฟฟ้าของฝรั่งเศสลดลงโดยรวม 2.2 กิกะวัตต์
ทางยูโรสตาร์ ประกาศยกเลิกการเดินรถไฟบางสายระหว่างกรุงลอนดอนและกรุงปารีส เนื่องจากการประท้วงหยุดงาน
ทั้งนี้ เอลิซาเบธ บอร์น นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เผยว่า การประท้วงหยุดงานนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางบริบททางการเมืองที่เข้มข้น เนื่องจากรัฐบาลฝรั่งเศสเตรียมผ่านร่างงบประมาณโดยใช้อำนาจรัฐธรรมนูญพิเศษ ที่อาจอนุญาตให้เลี่ยงลงคะแนนเสียงในสภาได้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์