ดีเบตชิงปธน.บราซิลเดือดสุด ก่อนเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้
"ฌาอีร์ โบลโซนารู" ประธานาธิบดีของบราซิล และ"ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา" อดีตประธานาธิบดี โต้คารมกันดุเดือดในดีเบตครั้งสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ (28ต.ค.)ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสองจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์(30ต.ค.)นี้
ประธานาธิบดีโบลโซนารู และอดีตประธานาธิบดีลูลา ดา ซิลวา ที่มีความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว กล่าวโจมตีกันอย่างเผ็ดร้อนในประเด็นส่วนตัวและผลงานของอีกฝ่ายในการดีเบตที่นครริโอ เด จาเนโร ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เมื่อวันศุกร์
ประธานาธิบดีโบลโซนารู กล่าวหาว่าลูลาเป็นจอมโกหก พยายามดึงดูดคะแนนเสียงจากประชาชนกลุ่มด้อยโอกาสที่สุด และให้สัญญาหาเสียงที่ไม่เคยทำตาม ขณะที่ลูลากล่าวโจมตีโบลโซนารูในประเด็นที่เขาไม่เชื่อเรื่องโรคโควิด-19 และความล้มเหลวในการป้องกันการแพร่ระบาด
นอกจากนี้ โบลโซนารูกล่าวว่าในรัฐบาลของเขาปัญหาด้านอาชญากรรมลดลง ขณะที่อัตราการฆาตกรรมเพิ่มขึ้น 30% ในสมัยของลูลา แต่อดีตประธานาธิบดี 2 สมัย ตอบโต้กลับด้วยการวิจารณ์นโยบายของโบลโซนารูที่ผ่อนคลายกฎหมายควบคุมปืน อนุญาตให้คนครอบครองและพกพาปืนเพื่อป้องกันตัวได้
กฎหมายปืนเป็นประเด็นหาเสียงที่มีการต่อสู้กันอย่างหนัก โดยโบลโซนารู ปกป้องสิทธิการครอบครองปืน และในสมัยของเขามีจำนวนคนจดทะเบียนครอบครองปืนเพิ่มขึ้นจาก 350,000 คน เป็นกว่า 1 ล้านคน แต่ลูลาให้สัญญาว่าเขาจะควบคุมปืนเข้มงวดขึ้นหากชนะเลือกตั้ง โดยคนทั่วไปยังครอบครองปืนได้แต่ไม่อนุญาตให้พกพา
นอกจากนี้ ในระหว่างการดีเบต ลูลาให้สัญญาว่าเขาจะฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศให้รุ่งเรืองเหมือนช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2546-2553 ที่ทำให้จำนวนประชากรยากจนลดลง แต่โบลโซนารูบอกว่านโยบายในปัจจุบันของเขามีประสิทธิภาพมากกว่า
ขณะที่โพลล์หลายสำนักบ่งชี้ว่า ลูลามีแนวโน้มจะได้รับชัยชนะเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ซึ่งจะเป็นการหวนคืนสู่เวทีการเมืองอย่างสวยงาม หลังจากเขาต้องเข้ารับโทษจำคุกในคดีทุจริต และได้รับการตัดสินให้พ้นผิดในเวลาต่อมา แต่โบลโซนารูก็สามารถทำคะแนนได้ดีเกินคาดในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 2 ต.ค. โดยพ่ายแพ้ให้ลูลาด้วยคะแนนตามหลังเพียงเล็กน้อย
นักวิเคราะห์หลายคน คาดว่าผลการเลือกตั้งรอบสุดท้ายนี้อาจออกมาอย่างไรก็ได้ ขณะที่หลายคนก็มองว่าประธานาธิบดีโบลโซนารูยังไม่สามารถดึงคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิออกเสียง ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครได้มากขึ้นเท่าใดนัก