ยูเนสโก้เตือน 'ธารน้ำแข็ง' หลายแห่งทั่วโลกจะสูญสลายในปี 2050
ยูเนสโก้ คาดการณ์ ธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของโลก คิดเป็นจำนวน 10% ของธารน้ำแข็งทั้งหมด จะละลายหายไปภายในปี 2050 จากภาวะโลกร้อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เผยแพร่คำเตือน ว่า ธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของโลก เช่น ธารน้ำแข็งโดโลไมต์สในอิตาลี ธารน้ำแข็งในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตีและอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนในสหรัฐฯ รวมถึงธารน้ำแข็งบนยอดเขาคิลิมันจาโรในแทนซาเนีย จะละลายหายไป ภายในปี 2050 เนื่องจากภาวะโลกร้อน
ธารน้ำแข็งมรดกโลกตามที่ยูเนสโกกำหนดไว้ แสดงถึงสัดส่วนประมาณ 10% ของพื้นที่ธารน้ำแข็งในโลก และรวมไปถึงธารน้ำแข็งที่โด่งดังของโลกบางแห่งด้วย ซึ่งความสูญเสียนั้น สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากพวกมันเป็นจุดโฟกัสสำหรับการท่องเที่ยวทั่วโลก
นายทาเลส คาร์วัลโญ ผู้เขียนนำของรายงาน บอกกับรอยเตอร์สว่า ธารน้ำแข็งมรดกโลกสูญเสียน้ำแข็งโดยเฉลี่ยราว 58,000 ล้านตันทุกปี ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณน้ำที่ฝรั่งเศสและสเปนใช้ต่อปีรวมกัน และมีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลที่มีการสังเกตการณ์ทั่วโลกสูงขึ้นเกือบ 5%
คาร์วัลโญ กล่าวว่า มาตรการป้องกันที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียว ในการป้องกันการลดลงของธารน้ำแข็งสำคัญทั่วโลก คือ การลดการปล่อยคาร์บอนอย่างมาก
นอกจากนี้ ยูเนสโกยังแนะนำว่า เนื่องจากธารน้ำแข็งส่วนใหญ่ลดลงมากกว่าเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคตอันใกล้ หน่วยงานท้องถิ่นควรกำหนดให้ธารน้ำแข็งเป็นจุดรวมของนโยบาย ด้วยการปรับปรุงการเฝ้าติดตามและการวิจัย ตลอดจนการดำเนินมาตรการลดความเสี่ยงของภัยพิบัติ