เกิดอะไรขึ้นกับ ‘เลโก้แลนด์’ ! บิ๊กอสังหาฯ ที่เกือบจะป่วนตลาดเงินเกาหลีใต้

ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตลาดการลงทุนเกาหลีใต้เกิดความปั่นป่วนขึ้นเล็กน้อยเมื่อ ‘คังวอนจุงโด คอร์ป’ หรือ จีเจซี บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในจังหวัดคังวอนของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น ‘สวนสนุกเลโก้แลนด์’ ประกาศขอเลื่อนชำระหนี้มูลค่า 205,000 ล้านวอน หรือประมาณ 142.3 ล้านดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ราวๆ 5,300 ล้านบาท

สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลเพราะเกรงว่าปัญหานี้อาจลามไปสู่วิกฤติอสังหาริมทรัพย์เหมือนที่เกิดขึ้นในจีน เนื่องจากหุ้นกู้ของ จีเจซี ได้รับการจัดอันดับเครดิตเรทติ้งในระดับ A และมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ จังหวัดคังวอน ซึ่งถืออยู่ในสัดส่วน 44%

สำนักข่าวบิสซิเนสไทม์ส รายงานแถลงการณ์ของตัวแทน จีเจซี เมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า จีเจซี จะสามารถชำระหนี้ได้หลังจากปรับปรุงและฟื้นฟูบริษัท ซึ่งจังหวัดคังวอนอาจต้องหาบริษัทอสังหาฯ อื่น ที่มีความสามารถพอที่จะดำเนินโครงการก่อสร้างต่อไปได้

ตลาดเงิน-อสังหาฯ เริ่มปั่นป่วน

สำนักข่าวโคเรียโพสต์อิงลิซ ระบุว่า ก่อนหน้านี้นักลงทุนซื้อพันธบัตรที่ออกโดย จีเจซี ด้วยความมั่นใจว่า พันบัตรดังกล่าวมีระดับความน่าเชื่อถือเท่ากับพันธบัตรรัฐบาล แต่ความเชื่อนี้ได้ถูกทำลายไป เมื่อเลโก้แลนด์ออกมายอมรับว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทำให้การลงทุนในตลาดพันธบัตรเริ่มได้รับผลกระทบ

สำนักข่าวโคเรียอีโคโนมิกซ์ไดอารี เผยว่า เหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินและตลาดหุ้นกู้ ทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการซื้อพันธบัตรและหุ้นกู้ของบริษัทต่าง ๆ รวมถึงบริษัทที่มีเครดิตดีมาก เช่น ฮันฮวาโซลูชันคอร์ป, แอลจียูพลัสคอร์ป, และฮันจินทรานสปอตเทชัน ส่งผลให้บริษัทเหล่านี้เกิดปัญหาในการระดมเงินทุน ไม่สามารถรวบรวมทุนจากการขายหุ้นกู้ได้ตามเป้า

นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่า เหล่าบริษัทก่อสร้างอาจเพิ่มเงินทุนได้อยากลำบาก เกิดความกังวลในตลาดสินเชื่อระยะสั้น (bridge loan) และความเสี่ยงในการก่อหนี้ใหม่เพื่อใช้หนี้เก่าอาจเพิ่มขึ้น เพราะเหล่าบริษัทอสังหาฯแบกรับต้นทุนแพงขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รวมทั้งต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างต่างๆ ยังแพงขึ้นจากเงินเฟ้อด้วย อย่างไรก็ดี หากตลาดอสังหาฯ เกาหลีใต้ตกต่ำ จะส่งผลให้ราคาบ้านในประเทศลดลง 10% และอาจกระตุ้นให้รัฐบาลต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมา

รัฐบาลเข้าอุ้มช่วยคลายความกังวล

สถานการณ์ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นเริ่มคลายลง หลังจากที่ คิม จินแท ผู้ว่าจังหวัดคังวอน ประกาศว่า จะใช้งบประมาณจังหวัดปลดหนี้ภายในวันที่ 29 ม.ค. 2566 แต่เอเชียนิวส์เน็ตเวิร์กรายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ว่า คิม ได้เลื่อนกำหนดชำระหนี้ไวขึ้น เป็นวันที่ 15 ธ.ค. 65 แทนแล้ว

ขณะที่ ชู คยองโฮ รัฐมนตรีคลังและหัวหน้ากำหนดนโยบายเศรษฐเกาหลีใต้ กล่าวในช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจะเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดเงิน โดยการซื้อหุ้นกู้และตราสารหนี้เอกชนระยะสั้นเพื่อยับยั้งการผิดนัดชำระหนี้เป็นวงกว้าง

โดยรัฐบาลประกาศว่าจะอัดฉีดเงินอย่างน้อย 50 ล้านล้านวอน หรือราว 35,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.29 ล้านล้านบาท) เพื่อให้ตลาดเงินระยะสั้นและตลาดหุ้นกู้มีเสถียรภาพ ซึ่งแผนช่วยเหลือดังกล่าว มีทั้งเงินทุนสำหรับสร้างเสถียรภาพให้ตลาดพันธบัตร 20 ล้านล้านวอน ซื้อหุ้นกู้และตราสารหนี้เอกชนระยะสั้นมูลค่า 16 ล้านล้านวอน และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ ซึ่งหลังจากรัฐบาลประกาศข่าวนี้ ทำให้เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดบอนด์ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร(บอนด์ยิลด์) เริ่มปรับตัวลดลง

หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ตราสารหนี้ของบริษัทนายหน้าหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า ความต้องการซื้อหุ้นกู้เริ่มฟื้นตัวกลับมา โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่มีเครดิตสูง แต่ตลาดอาจเกิดปัญหาได้อีกครั้ง จากปัจจัยอื่น ๆ เช่น ธนาคารกลางเกาหลีใต้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5%

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนตลาดตราสารหนี้เผยว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เนื่องจากหุ้นกู้ยังคงได้รับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกพุ่งสูง และปัญหาเงินเฟ้อ

ผลกระทบยังจำกัดแค่เกาหลีใต้

สำนักข่าวโคเรียโปร กล่าวว่า ปัญหาในตลาดเงินถือเป็นปัญหาระดับโลกของบรรดาลูกหนี้องค์กรต่าง ๆ แต่สถานการณ์ดังกล่าวดูเหมือนว่าจะกระทบแค่ในตลาดเงินเกาหลีใต้ มากกว่าตลาดเงินในประเทศอื่น

และแม้ว่าภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ภาคการเงินของเกาหลีใต้ มีหนี้สินมากกว่าธุรกิจอื่น ๆ ในหลายประเทศทั่วโลกก็ตาม แต่ความสามารถทำกำไรของธุรกิจในเหล่านี้ ยังมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าประเทศอื่น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกในองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (โออีซีดี) เนื่องจากสมาชิกโออีซีดีเน้นให้เงินอุดหนุนแก่ประชาชน แต่เกาหลีใต้เน้นให้เงินอุดหนุนแก่ธุรกิจ จึงเหมือนเป็นการค้ำประกันให้โดยปริยาย

นอกจากนี้ สำนักข่าวโคเรียโพสต์อิงลิช เผยความเห็นนักวิเคราะห์ ระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้แบบเลโก้แลนด์ที่อาจเกิดขึ้นในบรรดาบริษัทมหาชนท้องถิ่นนั้น มีความเป็นไปได้ต่ำ และเชื่อว่าการแทรกแซง การควบคุม และการสนับสนุนจากรัฐบาลต่อตลาดเงินมีประสิทธิภาพมากพอ

ล่าสุด วันที่ 9 พ.ย. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดเงินเกาหลีใต้ (เอฟเอสซี) นำโดย ชู คยองโฮ ร่วมประชุมหารือกับธนาคารอีก 20 แห่ง เรียกร้องให้มีบทบาทสำคัญในการสร้างเสถียรภาพให้ตลาดเงินในระยะสั้น ด้วยการซื้อตราสารหนี้เอกชนระยะสั้นและตราสารหนี้ที่มีสินทรัพย์อ้างอิง โดยร่วมมือกันรักษาวงเงินสินเชื่อไว้ให้ธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และจะพยายามช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจาก ชู กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูง ส่งผลให้การลดอัตราดอกเบี้ยและใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวยังทำได้ยาก

รู้จัก ‘โลโก้แลนด์ โคเรีย รีสอร์ท’

เลโก้แลนด์โคเรียรีสอร์ท เป็นสวนสนุกพร้อมที่พักโรงแรมในตัว ตั้งอยู่ในเมืองชุนชอน จังหวัดคังวอนของเกาหลีใต้ เปิดบริการตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 65 เป็นต้นมา มีเครื่องเล่น 40 เครื่อง และโรงแรม 154 ห้อง นับเป็นเลโก้แลนด์แห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศเกาหลีใต้

ทั้งยังเป็นเลโก้แลนด์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเลโก้แลนด์นิวยอร์ก ซึ่งบริษัทเมอร์ลินเอ็นเตอร์เทนเมนต์กรุ๊ปและ จีเจซี ได้ทำข้อตกลงในโครงการเลโก้แลนด์ร่วมกันตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2554

แม้ว่าปัญหาหนี้ของ ‘เลโก้แลนด์’ จะคลี่คลายลงได้ด้วยดีจากมาตรการต่างๆ ที่ภาครัฐโดดเข้ามาอุ้ม แต่เชื่อว่านักลงทุนยังไม่อาจวางใจในสถานการณ์เหล่านี้ได้ เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง โดยเฉพาะท่ามกลางดอกเบี้ยโลกที่เป็นขาขึ้น และไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐล่าสุดจะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ก็ตาม