สหรัฐเบรกจีนใช้ความรุนแรงสลายกลุ่มผู้ประท้วง เตือนอาจกระทบสัมพันธ์
สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ 42 คน ส่งจดหมายถึงนายฉิน กัง เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) ซึ่งระบุชัดเจนว่า พวกเขากำลังเฝ้าติดตามดูสถานการณ์การประท้วงในจีนอย่างระมัดระวัง
สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ 42 คนซึ่งนำโดยนายแดน ซัลลิแวน และนายเจฟฟ์ เมอร์กลีย์จากพรรคเดโมแครต รวมทั้งนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ และนายทอดด์ ยัง จากพรรครีพับลิกัน ได้ส่งจดหมายถึงนายฉิน กัง เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) ซึ่งระบุชัดเจนว่า พวกเขากำลังเฝ้าติดตามดูสถานการณ์การประท้วงในจีนอย่างระมัดระวัง และคัดค้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในการสลายการชุมนุม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน
ในจดหมายดังกล่าวระบุว่า ปฏิกิริยาของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่อผู้ประท้วงกำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งกล่าวถึงการประท้วงใหญ่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 2532 ซึ่งรัฐบาลจีนใช้ความรุนแรงในการปราบปรามกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาประท้วง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยรายถึงหลายพันราย ซึ่งในเวลาต่อมา สหรัฐและกลุ่มชาติตะวันตกหลายประเทศได้ออกมาตรการคว่ำบาตรจีนจากการสังหารหมู่ดังกล่าว
สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐยังเตือนถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเน้นย้ำอย่างหนักแน่นว่า ไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ประท้วงที่ต้องการเสรีภาพและออกมาชุมนุมอย่างสันติ ซึ่งหากมีความรุนแรงเกิดขึ้นซ้ำอีก ก็เชื่อว่าจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงและสร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จีนได้รับแรงกระเพื่อมจากการประท้วงเป็นวงกว้างจากประชาชนที่ไม่พอใจนโยบายกักตัวโควิด-19 ซึ่งเข้มงวดที่สุดในโลก โดยนับเป็นการแสดงออกถึงการต่อต้านของประชาชนต่อรัฐบาลจีนซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นับตั้งแต่นายสี จิ้นผิง ขึ้นเป็นประธานาธิบดีจีนเมื่อปี 2555