‘ปูติน’สั่งเพิ่มกำลังทหาร 1.5 ล้านนาย กร้าวปักหลักทำศึกจนกว่าจะมีชัย
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งเพิ่มกำลังทหารเป็น 1.5 ล้านนายจาก 1 ล้านนาย พร้อมประกาศกร้าวจะปักหลักทำศึกในยูเครนจนกว่าจะมีชัยชนะตามเป้าหมาย หลัง"เซเลนสกี"หารือยุทธศาสตร์การรบขั้นลึกกับผู้นำสหรัฐที่วอชิงตัน
ประธานาธิบดีปูติน กล่าวเมื่อวันพุธ(21ธ.ค.)ในการประชุมกับนายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซียว่า การเพิ่มกำลังทหาร 1.5 ล้านนายรวมถึงทหารอาสาจำนวน 695,000 นายด้วย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าการเพิ่มกำลังทหารจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อใด
นอกจากนี้ รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซีย ยังประกาศแผนจัดตั้งหน่วยงานของกองทัพใหม่ทางตะวันตกของรัสเซีย เพื่อถ่วงดุลอำนาจฟินแลนด์และสวีเดนในการเข้าร่วมกับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต้)
การสั่งเพิ่มกำลังทหารของ ปธน.ปูติน มีขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ให้การต้อนรับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ที่ทำเนียบขาว ซึ่งการเยือนสหรัฐครั้งนี้ของผู้นำยูเครน ถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียส่งกองทัพรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนก.พ.
ปธน.เซเลนสกี ได้หารือทวิภาคีกับปธน.ไบเดน ที่ทำเนียบขาว ก่อนจะเดินทางไปกล่าวปราศรัยต่อหน้าสมาชิกสภาคองเกรสที่อาคารรัฐสภาสหรัฐ ในช่วงค่ำของวันพุธ(21ธ.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การหารือระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ครอบคลุมประเด็นยุทธศาสตร์เชิงลึกในการทำสงคราม ประเด็นอาวุธยุทโธปกรณ์และการฝึกทหาร ตลอดจนความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ พลังงาน และด้านมนุษยธรรม ที่สหรัฐและชาติพันธมิตรเตรียมจัดหาให้แก่ยูเครน
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดียูเครน เรียกร้องให้สหรัฐและชาติพันธมิตร จัดหาระบบป้องกันตนเองทางอากาศที่สามารถช่วยยูเครนรับมือกับการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนจากกองทัพรัสเซีย ที่ถล่มหลายเมืองและทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานยูเครนทั่วประเทศ
ก่อนหน้าที่ปธน.ยูเครนจะเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน รัฐบาลสหรัฐก็ประกาศความช่วยเหลือด้านการทหารรอบใหม่แก่ยูเครน รวมทั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ แพทริออต ซึ่งเป็นระบบป้องกันตนเองทางอากาศที่มีความก้าวหน้ากว่าที่ยูเครนใช้