พายุหิมะถล่มหนักนิวยอร์ก ‘ไบเดน’จัดเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน

พายุหิมะถล่มหนักนิวยอร์ก ‘ไบเดน’จัดเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน

สถานการณ์พายุหิมะถล่มในหลายรัฐของสหรัฐยังไม่ดีขึ้น ล่าสุด “ไบเดน” อนุมัติความช่วยเหลือให้รัฐนิวยอร์ก รับมือพายุหิมะถล่มหนัก พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะยอดผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศหนาวจัดทั่วสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 50 ราย

ทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐนิวยอร์ก พร้อมทั้งอนุมัติมาตรการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่รัฐนี้ เนื่องจากผลกระทบของพายุหิมะที่พัดถล่มอย่างรุนแรง

พายุหิมะที่พัดถล่มอย่างต่อเนื่องและอุณหภูมิที่เย็นจัดได้คร่าชีวิตประชาชนผู้อยู่อาศัยในนิวยอร์กไปแล้ว 27 รายเมื่อวันจันทร์(26ธ.ค.)ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจำนวนกว่า 50 ราย

ทางการเขตอีรี เคาน์ตี รัฐนิวยอร์ก ระบุว่า พาหนะราว 500 คัน ติดค้างอยู่บนถนนที่มีหิมะท่วมสูงช่วงค่ำวันศุกร์ถึงเช้าวันเสาร์ และผู้เสียชีวิตล่าสุดถูกพบในรถยนต์ และจมอยู่ในกองหิมะ ทางการต้องส่งกองกำลังรักษาดินแดนเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในรถยนต์ หรือคนที่ติดอยู่ในบ้าน ไม่สามารถออกไปหาซื้ออาหารได้
 

ส่วนที่เมืองบัฟฟาโล ในรัฐนิวยอร์ก  เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากพายุ โดยมีหิมะตกวัดได้ 2-3 นิ้วต่อชั่วโมง และที่สนามบินบัฟฟาโล ไนแอการา มีหิมะตกสะสมจนถึงเช้าวันอาทิตย์วัดได้ 43 นิ้ว

ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ทั้งในและรอบเมืองบัฟฟาโล บริเวณริมทะเลสาบอิรี ทางตะวันตกของรัฐนิวยอร์ก พื้นที่บริเวณนี้ถูกประกาศห้ามขับขี่บนท้องถนน เนื่องจากมีปรากฏการณ์ “หิมะที่เกิดจากทะเลสาบ” (lake-effect snow) หรือ ปรากฏการณ์ที่มวลอากาศเย็นเคลื่อนผ่านพื้นผิวทะเลสาบที่อุ่นกว่า จนน้ำบนผิวระเหยและตกลงมาเป็นหิมะตลอดช่วงสุดสัปดาห์

“เคธี โฮชูล” ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า “แม้พายุหิมะจะเริ่มอ่อนกำลังลง แต่เรายังไม่พ้นสถานการณ์อันตราย” พร้อมเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในบ้าน อย่าออกเดินทางบนท้องถนน และอวยพรให้ทุกคนปลอดภัย

นอกจากนี้ พายุหิมะยังส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากในสหรัฐ โดยเฉพาะสายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ซึ่งยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากถึง 2,886 เที่ยวบินในวันจันทร์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 70% ของตารางบินทั้งหมด หลังจากที่ยกเลิกเที่ยวบินไปแล้ว 48% ในวันอาทิตย์( 25 ธ.ค.) อีกทั้งสายการบินยังยกเลิกเที่ยวบิน 60% ของตารางบินในวันอังคาร(27 ธ.ค.)ด้วย

ด้านกระทรวงคมนาคมสหรัฐ  ประกาศว่าจะดำเนินการตรวจสอบกรณีสายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ยกเลิกเที่ยวบินจำนวมากรวมทั้งความล่าช้าของเที่ยวบินในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เพื่อพิจารณาว่าสถานการณ์ดังกล่าวอยู่ในวิสัยที่ทางสายการบินสามารถควบคุมได้หรือไม่ พร้อมระบุว่าการยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้

“กระทรวงคมนาคมมีความกังวลเกี่ยวกับยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากและความล่าช้าของเที่ยวบินของสายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นการยกเลิกเที่ยวบินในสัดส่วนที่ไม่เหมาะสมและไม่สามารถยอมรับได้ รวมไปถึงความล้มเหลวในการให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมแก่ผู้โดยสารที่ถูกยกเลิกเที่ยวบินหรือเที่ยวบินล่าช้า” กระทรวงคมนาคมสหรัฐ กล่าว

ขณะที่ “แอนดี ลิโพว์” ประธานบริษัทลิโพว์ ออยล์ แอสโซซิเอทส์ (Lipow Oil Associates) คาดการณ์ว่า พายุหิมะที่พัดถล่มทั่วสหรัฐอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงานทั่วโลก

ลิโพว์ ระบุด้วยว่า การผลิตน้ำมันในรัฐนอร์ทดาโคตาปรับตัวลง 300,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากสถานการณ์พายุหิมะที่เกิดขึ้น ส่วนการผลิตก๊าซธรรมชาติในประเทศลดลง 10-15% เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวจัด

“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันทั่วโลกอย่างแน่นอน เนื่องจากสหรัฐเป็นผู้ส่งออกน้ำมันเบนซินรายสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกไปยังยุโรปและอเมริกาใต้” นายลิโพว์กล่าว พร้อมระบุว่า การส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ไปยังประเทศต่าง ๆ ต้องเผชิญกับอุปสรรคจากการปิดท่าเรือชั่วคราวบางแห่งตามแนวชายฝั่งอ่าวเท็กซัส เนื่องจากลมกระโชกแรง

อย่างไรก็ตาม ลิโพว์มองว่า ปัญหาด้านสภาพอากาศเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และอุปทานน้ำมันเบนซินยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม

ในช่วงเช้าวานนี้(27ธ.ค.) ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรายงานข่าวที่ว่า โรงกลั่นน้ำมันกว่า 1 ใน 3 แห่งในเขตกัลฟ์โคสต์ของรัฐเท็กซัสปิดการดำเนินงาน เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นจัดที่แผ่ปกคลุมทั่วสหรัฐ