เปิดเมนู - พิกัด "จีน" เที่ยวไทยสไตล์ใหม่
ไทยติดอันดับสองใน 5 ประเทศและดินแดน รองจากฮ่องกง นำหน้าญี่ปุ่น มาเก๊า และเกาหลีใต้ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนวางแผนเดินทางเป็นที่แรกๆ หลังปลดล็อกการเดินทางออกนอกประเทศในวันอาทิตย์ (8 ม.ค.) แล้วชาวจีนเล็งพิกัดจะท่องเที่ยวจังหวัดไหน และกินอาหารอร่อยเมนูใดในไทยบ้าง
ในตลอด 3 ปีที่ชาวจีนกว่า 1,700 ล้านคน อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เข้มงวดที่สุดในโลก ซึ่งเพียงแค่การเดินทางออกนอกบ้านก็ดูเป็นเรื่องยากแล้ว เพราะต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดสารพัด แบบไม่ต้องหวังเดินทางออกนอกประเทศกันเลย แต่พวกเขาไม่หยุดวาดฝัน
ระหว่างนั้นทุกคนทำการบ้านทางออนไลน์ ท่องไปในโลกโซเชียล เสิร์ชอัพเดทข้อมูล ราคา สถานที่ในจังหวัดต่างๆ รวมถึงเทรนด์ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นใหม่ในไทยด้วย
ก่อนหน้านี้บริษัท เดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชันส์ ได้ทำการสำรวจความต้องการของนักท่องเที่ยวจีน ปี 2563 ซึ่งเป็นปีแรกของระบาดโควิด ชี้ว่า จุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทยที่นักท่องเที่ยวชาวจีนต้องการไปมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เชียงใหม่ เกาะสมุย และพัทยา
ส่วนแพลตฟอร์มที่เป็นช่องทางการจองโรงแรมยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ ซีทริป, ฟลิกกี้ , เว็บไซต์โรงแรม, บุ๊คกิ้งดอทคอม และวีแชท
สิ่งสำคัญที่หลายคนสงสัย คนจีนกระเป๋าหนักแค่ไหน ในรายงานสำรวจเปิดเผยว่า งบประมาณการเดินทางสำหรับ 50% ของผู้ตอบแบบสำรวจคือ 1,400 ดอลลาร์ต่อคน หรือประมาณ 50,000 บาท และเฉลี่ยระยะเวลาท่องเที่ยวในไทยราว 1 สัปดาห์ ซึ่งข้อมูลนี้อาจไม่ทำให้เห็นตัวเลขรายได้ที่ชัดเจนที่จะเกิดขึ้นในตอนนี้ บอกได้เพียงจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนประเทศไทยเมื่อปี 2562 มีอยู่กว่า 11 ล้านคน
ขณะเดียวกันรูปแบบการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนก็เปลี่ยนจากกรุ๊ปทัวร์ใหญ่มาเป็นการเที่ยวคนเดียวบ้าง หรือกลุ่มเพื่อนเล็กๆ พร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ไม่ต้องมีไกด์ เพื่อให้เห็นภาพต้องนึกถึง “แก๊งสาวแฟชั่นนิสต้า” กับกล้องคอมแพคตัวเดียว
แต่ที่น่าสนใจคือจำนวนกลุ่มผู้สูงอายุที่ชอบเที่ยวเองหรือครอบครัวใหญ่ทั้งคุณปู่คุณย่าที่มาชอปปิง กินข้าว ถ่ายรูปแล้วลงโซเชียลกระตุ้นเพื่อนๆ อยู่ที่จีนได้อยากมาบ้าง
“ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร” รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ชี้ว่า ขณะนี้ จีนยังไม่ได้คลายล็อกให้เอเยนต์บริษัทท่องเที่ยวจัดทัวร์กลุ่มไปต่างประเทศได้ หวังช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีคนจีนออกมาเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองมากขึ้น ความถี่ของเที่ยวบินด้วยว่าจะเอื้อต่อการเดินทางหรือไม่
แต่ถึงอย่างไร รูปแบบพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่มาประเทศไทยตอนนี้เปลี่ยนไป ส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาด้วยตัวเอง ไม่อาศัยกรุ๊ปทัวร์ ดังนั้นนักธุรกิจและผู้ประกอบการไทยต้องเปลี่ยนมุมมองและปรับกลยุทธ์ใหม่รับกับรูปแบบนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ และมีความเป็นนิวนอร์มัลในแบบของเขา
รายงานของนีลเส็นและอาลีเพย์ ร่วมเผยแพร่ “รายงานการสำรวจแนวโน้มการท่องเที่ยวและการบริโภคของนักท่องเที่ยวชาวจีน ปี2565 ระบุเหตุผลที่คนจีนชอบเที่ยวไทย เพราะปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการ ทั้งขั้นตอนการ “ขอวีซ่าสะดวกและง่ายกว่า” ราคาสินค้าและบริการที่ถูกกว่า และการคมนาคมสะดวกสบาย
“กาญจนา ภัทรโชค” อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กรมการกงสุล และกระทรวงการต่างประเทศมีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งไทยมีระบบการรองรับการตรวจลงตราปัจจุบันเป็นรูปแบบ E-visa เป็นมาตรฐานที่ให้บริการวีซ่าเหมือนกับประเทศต่างๆ โดยจากการประมาณการจำนวนผู้ที่จะเดินทางมาประเทศไทยในไตรมาสแรก น่าจะอยู่ในวิสัยที่สามารถบริหารจัดการได้
“มาตรการผ่อนคลายของจีนไม่ได้หมายความว่า นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก” นางกาญจนากล่าวย้ำและว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณการว่าจะเดินทางมาประมาณ 3 แสนคนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566
ข้อมูลของแอปพลิเคชัน RED ซึ่งเป็นชุมชนแบ่งปันไลฟ์สไตล์ของผู้คนในประเทศจีน มีผู้ใช้มากกว่า 250ล้านคน พบว่า คำค้นหายอดนิยมเกี่ยวกับประเทศไทยคือ สิ่งที่ต้องซื้อในไทย สถานที่ต้องท่องเที่ยวในไทย และอาหารต้องกินที่ประเทศไทย ซึ่งเมนูยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ เมนูมะม่วง (ข้าวเหนียวมะม่วง,น้ำมะม่วง) ทุเรียน ต้มยำกุ้ง อาหารทะเล และสับปะรด (ผลสด, อบแห้ง,ข้าวผัดสัปปะรด)
ในรายงานระบุด้วยว่า 65% ของนักท่องเที่ยวจีนใช้แพลตฟอร์มการชำระเงินเพื่อเป็นค่าสินค้าและบริการผ่านมือถือเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่าเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวชาติอื่นที่ใช้รูปแบบการชำระเงินแบบนี้เพียง 11% ผลสำรวจชิ้นนี้ ยังพบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 90% จะเลือกใช้การชำระเงินผ่านมือถือเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
หากผู้ประกอบการในต่างประเทศเปิดรับชำระเงินด้วยวิธีการดังกล่าวมากขึ้นในอนาคต แต่อุปสรรคสำคัญที่สุดในขณะนี้คือ จำนวนผู้ประกอบการที่รับชำระเงินด้วยวิธีดังกล่าวในต่างประเทศค่อนข้างมีจำนวนจำกัด
ขณะนี้ตลาดนักท่องเที่ยวเอเชียเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 กันหมดแล้ว ส่วนจีนยังต้องรอการพิสูจน์จากล่าสุดเมื่อสามปีที่แล้ว ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจีนมากเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยจำนวน11,138,658คน สร้างรายได้กว่า 531,576ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากประเทศจีนประกาศเปิดประเทศโดยผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางเข้าจีน ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป จะมีเที่ยวบินจากจีนที่นำนักท่องเที่ยวทยอยเข้าไทยมาไฟลท์แรกตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมนี้ เป็นเที่ยวบินที่มาจากเมืองเซี่ยเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตอนใต้ของจีน ประมาณ 200 คน