เลือดข้นคนวินด์เซอร์ ‘เจ้าชายแฮร์รี-ราชวงศ์อังกฤษ’ จ่อคืนดีก่อนราชาภิเษก

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทม์สรายงานเมื่อวันเสาร์ (14 ม.ค.) อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด กษัตริย์ชาร์ลส ที่รู้จักเจ้าชายแฮร์รีและชายาเมแกนด้วยว่า พวกเขาจะหารือกันภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าก่อนถึง วันราชาภิเษก 6 พ.ค.

“ทุกฝ่ายต้องยืดหยุ่น เรื่องนี้สามารถทำได้ แก้ไขได้ เจ้าชายแฮร์รีต้องมาที่นี่ เข้าห้องคุยกับกษัตริย์และเจ้าชายแฮร์รี และสมาชิกราชวงศ์อีกคู่หนึ่งที่เจ้าชายไว้ใจและสนับสนุนพระองค์เสมอมา เพื่อไม่ให้พระองค์รู้สึกว่าถูกซุ่มโจมตี

ทั้งสองฝ่ายต้องจริงใจและยอมรับว่าเราไม่ได้ทำถูกทุกอย่าง เราทำผิดมากมาย และเราต้องพูดกับเขาว่า เราเข้าใจความเจ็บปวดที่เธอเจอ กษัตริย์ทำได้"แหล่งข่าวกล่าว

สัปดาห์ก่อน Spare หนังสือบันทึกความทรงจำเจ้าชายแฮร์รี ที่ผู้อ่านตั้งตาคอยและเป็นข่าวดังมาโดยตลด วางแผงอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ม.ค. ฉบับภาษาอังกฤษขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทุบสถิติ 1.4 ล้านเล่มภายใน 24 ชั่วโมงแรก

แม้ราชวงศ์อังกฤษไม่ได้ให้ความเห็นต่อหนังสือเล่มนี้ แต่แหล่งข่าวกล่าวว่า เจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา ผู้ทรงเป็นรัชทายาทราชบัลลังก์อังกฤษ ทรง “ร้อนรุ่ม” ที่พระอนุชาไม่ซื่อสัตย์

“คนที่นี่ใช่ว่าจะประพฤติดีกันทุกคนหรอก แต่แฮร์รีสามารถนั่งลงแล้วบอกว่า เราก็ทำตัวไม่ดีเหมือนกัน ซึ่งนั่นจะช่วยประนีประนอมได้มาก แต่แฮร์รีไม่เก่งเรื่องนี้” แหล่งข่าวกล่าวต่อ

เจ้าชายแฮร์รี เคยกล่าวว่า พระองค์ต้องการคืนดีกับครอบครัวแต่ต้องมี “การรับผิด” ก่อนเป็นอันดับแรก แหล่งข่าวระบุว่า ตอนนี้เวลาเป็นเรื่องสำคัญมาก

“เราต้องมูฟออนจากเรื่องนี้ และทำให้เสร็จภายในเดือน เม.ย. จากนั้นค่อยให้พวกเมียๆ เข้ามา กษัตริย์ต้องการให้เรื่องเรียบร้อยก่อนราชาภิเษก” แหล่งข่าวรายเดิมสรุป

ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายเห็นพ้องว่า เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ซึ่งสละชีวิตราชวงศ์ไปอยู่แคลิฟอร์เนียในปี 2563 ต้องได้รับเชิญมาหารือก่อนวันราชาภิเษกซึ่งเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ไม่เช่นนั้นแล้วความขัดแย้งระหว่างสองพี่น้องที่บานปลายจะกลายเป็น “เรื่องน่ารำคาญรบกวนจิตใจ”

ด้านความคิดเห็นสาธารณชนในอังกฤษท่ามกลางวิกฤติค่าครองชีพรุนแรงที่สุดในชั่วอายุคน ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเจ้าชายแฮร์รีหลังออกหนังสือ 

ผลสำรวจยูกัฟทำให้กับหนังสือพิมพ์เดอะไทม์สรายวัน พบว่า ผู้ให้ข้อมูลเพียง 24% เท่านั้นที่มองเจ้าชายแฮร์รีในทางที่ดี ลดลงจาก 80% เมื่อสิบปีก่อน ขณะที่คนวิจารณ์มีถึง 68%