เปิดเบื้องหลังทริปไบเดน เดินทางหลายทอดกว่าจะถึงกรุงเคียฟ

หลังฉากเจ้าหน้าที่จากทำเนียบขาวและหน่วยงานอื่นๆ กำลังวางแผนเครียดให้ไบเดนไปเยือนกรุงเคียฟโดยไม่ประกาศล่วงหน้า เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับยูเครน ไม่กี่วันก่อนครบรอบหนึ่งปีการรุกรานของรัสเซีย 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ทำเนียบขาวเผยว่า หลังจากวางแผนมานานหลายเดือน เมื่อวันศุกร์ (17ก.พ.) ไบเดนก็ตัดสินใจเดินหน้าทริปเขาถูกนำตัวไปฐานทัพอากาศแอนดรูว์นอกวอชิงตัน และออกเดินทางในเวลา 4.15 น. วันอาทิตย์ (19 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น  มีผู้ช่วยไปด้วยไม่กี่คน สื่อที่ไปด้วยลดจำนวนลงเหลือแค่นักข่าวหนึ่งคนกับช่างภาพหนึ่งคนเท่านั้น แทนที่จะเป็นขบวนใหญ่เหมือนปกติ

ประธานาธิบดีบินข้ามคืนไปลงที่ฐานทัพอากาศแรมสไตน์ในเยอรมนีเพื่อเติมน้ำมัน จากนั้นบินต่อไปยังเมืองเซอร์ซูฟ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของโปแลนด์ ขับรถหนึ่งชั่วโมงไปถึงเมืองพเซมิซล ชายแดนโปแลนด์-ยูเครน แล้วขึ้นรถไฟเดินทาง 10 ชั่วโมงไปยังกรุงเคียฟ ถึงที่นั่นคืนวันอาทิตย์ รถไฟของไบเดนต้องเดินทางฝ่าความมืดท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นบนขบวนรถ

รถไฟมาจอดที่สถานีเคียฟ-พาซาชิร์สกีในเมืองหลวงของยูเครน เวลาราว 8.00 น. วันจันทร์ (20 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่รอบชานชาลาเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเครน “บริดเจ็ต บริงค์” รอคอยต้อนรับไบเดนและคณะ

“ดีใจจังที่ได้กลับมาเคียฟอีก” ไบเดนเอ่ยหลังก้าวลงจากขบวนรถ

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติที่ไปกับประธานาธิบดีด้วยกล่าวว่า ทางการสหรัฐไม่ได้แจ้งทางการรัสเซียว่าไบเดนจะเดินทางมากรุงเคียฟ

“เราไม่บอกอยู่หลายชั่วโมงก่อนที่เขาออกเดินทาง ด้วยจุดประสงค์ต้องการลดความขัดแย้ง” ซัลลิแวนแถลงกับผู้สื่อข่าวโดยไม่ได้รายละเอียดเพิ่มเติมและว่าทริปนี้ต้องการทีมงานรักษาความปลอดภัย ปฏิบัติการ และขนส่งมืออาชีพจากทุกหน่วยงานของรัฐบาล เพื่อทำภารกิจที่มีความเสี่ยงสุดๆ ให้เป็นความเสี่ยงในระดับที่จัดการได้

ส่วนชาวบ้านกรุงเคียฟต้องใช้ชีวิตท่ามกลางคำขู่ต่อเนื่องจากรัสเซียว่าจะโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน

หลังเยือนเคียฟ ไบเดนขึ้นรถไฟกลับพเซมิซล เมื่อไปถึงจึงเดินทางต่อไปยังกรุงวอร์ซอว์ ตามที่เป็นข่าวมาตลอด