สภาสูงรัสเซียมีมติเอกฉันท์รับรองคำสั่ง "ปูติน" ล้มข้อตกลงนิวเคลียร์

ล่าสุด สภาสหพันธ์ หรือวุฒิสภารัสเซีย ลงมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้การรับรองประกาศดังกล่าวของปธน.ปูติน หลังจากที่สภาดูมา หรือสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซีย มีมติเอกฉันท์ให้การรับรองประกาศดังกล่าวเช่นกัน

ทั้งนี้ สหรัฐและรัสเซียลงนามในข้อตกลง "New START" ในปี 2553 ซึ่งจะจำกัดให้แต่ละประเทศมีหัวรบนิวเคลียร์ไม่เกิน 1,550 หัวรบ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะหมดอายุในปี 2569

นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย กล่าวว่า การที่รัสเซียระงับความร่วมมือในสนธิสัญญาดังกล่าวกับทางสหรัฐ เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นมานานแล้ว

"เราถูกบังคับให้ทำการตัดสินใจดังกล่าว จากการที่สหรัฐและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ประกาศสงครามต่อรัสเซีย" นายเมดเวเดฟกล่าว และเสริมว่า ข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ในอนาคตควรจะต้องมีการรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ในอังกฤษและฝรั่งเศสด้วย

นอกจากนี้ ปธน.ปูตินกล่าววานนี้ว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซีย และ Rosatom ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย ควรเตรียมพร้อมสำหรับการทดลองนิวเคลียร์ หากมีความจำเป็น

อย่างไรก็ดี ปธน.ปูตินย้ำว่า รัสเซียจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มต้นในการทดลองนิวเคลียร์

ปธน.ปูตินระบุว่า รัสเซียมีความรู้ในเชิงลึกเกี่ยวกับสหรัฐ และรู้ว่าอาวุธนิวเคลียร์บางประเภทกำลังเริ่มหมดอายุ ทำให้สหรัฐเริ่มพิจารณาที่จะทำการทดลองอาวุธนิวเคลียร์อย่างเต็มรูปแบบสำหรับการพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์แบบใหม่

"เราจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มต้น แต่หากสหรัฐทำการทดลองนิวเคลียร์ เราก็จะดำเนินการตาม"

ปธน.ปูตินกล่าวว่า รัสเซียพร้อมทำการเจรจาด้านความมั่นคงกับชาติตะวันตก แต่กลับได้รับการตอบรับที่เสแสร้ง

"เราเปิดกว้างและมีความจริงใจในการหารือเชิงสร้างสรรค์กับตะวันตก โดยเรายืนยันว่ายุโรปและทั่วทั้งโลกจะต้องมีระบบความมั่นคงที่เท่าเทียมกันของทุกชาติ แต่เรากลับได้รับการตอบรับที่ไม่ชัดเจนและเสแสร้ง ขณะที่นาโตขยายอำนาจมาถึงชายแดนของเรา และสร้างโล่ขีปนาวุธในยุโรปและเอเชีย" ปธน.ปูตินกล่าว

ปธน.ปูตินประกาศว่า รัสเซียจะยังคงเดินหน้าทำสงครามในยูเครนต่อไป และกล่าวหาว่าสหรัฐและพันธมิตรจากนาโตเป็นฝ่ายที่กระพือให้ความขัดแย้งลุกลามออกไป ท่ามกลางความเชื่อที่ว่าชาติตะวันตกจะสามารถเอาชนะรัสเซียได้

"พวกเขาเป็นฝ่ายเริ่มต้นสงคราม และเราจะใช้กำลังทหารเพื่อยุติสงคราม" ปธน.ปูตินกล่าว