เปิดแผนเกาหลีใต้ 4.0 | ธราธร รัตนนฤมิตศร
ประเทศเกาหลีใต้ เผชิญกับความท้าทายจากสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งส่งผลให้อัตราการเติบโตที่มีศักยภาพของประเทศกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง
จากกำลังแรงงานของประเทศมีอายุมากขึ้นและอัตราการเจริญพันธุ์ลดลงจนต่ำที่สุดในโลก ภาคเอกชนได้สูญเสียโมเมนตัมในการประกอบธุรกิจ
เนื่องจากกฎระเบียบภาครัฐที่มากเกินไป การพึ่งพาเงินทุนของรัฐที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศที่เพิ่มขึ้น
เมื่อเร็วๆ นี้ เกาหลีใต้จึงได้เปิดแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับใหม่ ที่เรียกว่า “New Growth Strategy 4.0” เสนอยุทธศาสตร์และโครงการที่มีความทะเยอทะยานในการพัฒนาประเทศสู่อนาคต
เป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนฐานของเทคโนโลยีอนาคตและส่งเสริมกลไกการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่
แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวมีเขียนขึ้นอย่างมีความเป็นรูปธรรมผ่าน 15 โครงการขนาดใหญ่ พร้อมคำมั่นในเม็ดเงินลงทุนมหาศาลในโครงการต่างๆ
คาดว่าจะสามารถช่วยรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันทางเทคโนโลยีใน 3 อุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ของประเทศ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ และจอแสดงผล โดยตั้งเป้าหมายจะลงทุน 1.8 ล้านล้านบาทในสามอุตสาหกรรมหลักดังกล่าว
เป้าหมายโดยรวมของยุทธศาสตร์การเติบโตใหม่ 4.0 ของเกาหลีใต้ คือ การเพิ่มระดับของรายได้มวลรวมประชาชาติต่อหัวของเกาหลีใต้ (GNI) เป็น 50,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.74 ล้านบาทต่อคนต่อปี (ประมาณเดือนละ 145,250 บาทต่อเดือน) โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 35,373 ดอลลาร์ในปี 2564
ภาคการขนส่ง เกาหลีใต้วางแผนที่จะจำหน่ายรถยนต์ไร้คนขับ (self-driving car) ในเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2573 หรืออีกประมาณ 8 ปีข้างหน้า โดยสร้างระบบที่เรียกว่า “Cooperative Intelligence Transport Systems” (C-ITS) ซึ่งจะช่วยให้รถยนต์สามารถแบ่งปันข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ได้
การใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ จะไปใช้ในภาคโลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนการจัดส่งและเพิ่มความเร็วในการขนส่ง ท่าเรือใหม่ปูซานและท่าเรือใหม่จินแฮ จะถูกเปลี่ยนเป็นเมกะพอร์ตอัจฉริยะที่ให้บริการโลจิสติกส์ใหม่โดยใช้หุ่นยนต์ส่งของและโดรน
นอกจากนี้ รัฐบาลวางแผนจะลงทุนประมาณ 53,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาจรวดรุ่นต่อไปที่สามารถบรรทุกยานขนาด 1.8 ตันได้ภายในปี 2575 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอวกาศให้กับประเทศ
ภาคการแพทย์และสุขภาพ เกาหลีใต้เรียนรู้ตัวอย่างจากคลัสเตอร์ชีวภาพในเมืองบอสตัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทยาและเทคโนโลยีชีวภาพกว่า 1,000 แห่ง เกาหลีใต้จะสร้างคลัสเตอร์ชีวภาพของตนเองภายในปี 2568
เกาหลีใต้จะพัฒนาธนาคารข้อมูลชีวภาพโดยรวบรวมข้อมูลทางพันธุกรรมและข้อมูลทางคลินิกของคนกว่า 1 ล้านคน และมีเป้าหมายที่จะพัฒนาการรักษาแบบเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ (regenerative medicine) อย่างน้อย 3 วิธี ซึ่งรวมถึงการบำบัดด้วยเซลล์และยีนภายในปี 2573
และวางเป้าหมายที่จะจำหน่ายซอฟต์แวร์ด้านการดูแลสุขภาพอย่างน้อย 5 ตัวภายในปี 2568
ภาคส่วนเทคโนโลยี รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และพยายามลดช่องว่างด้านเทคโนโลยีระหว่างตนเองกับสหรัฐลง รวมถึงการสนับสนุนตลาดข้อมูลด้วยการสร้างศูนย์ข้อมูลขั้นสูงที่ใช้ชิปปัญญาประดิษฐ์ความเร็วสูงและพลังงานต่ำ
ประเทศมีเป้าหมายที่จะขยายตลาดข้อมูลจนถึงมูลค่าประมาณ 1.3 ล้านล้านบาทภายในปี 2570 นอกจากนี้ รัฐบาลมีแผนที่จะพัฒนาบริการที่สามารถช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการผ่านเทคโนโลยีด้วยงบประมาณราว 20,000 ล้านบาท
รัฐบาลยังมีแผนที่จะพัฒนา “ChatGPT” เวอร์ชันภาษาเกาหลี และพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50 คิวบิต รวมถึงต้นแบบควอนตัมเซนเซอร์ 3 ตัว เช่น อุปกรณ์ตรวจจับข้อบกพร่องในแบตเตอรี่และเซมิคอนดักเตอร์ภายในปี 2570
ด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล เกาหลีใต้วางแผนจะปรับปรุงการเข้าถึงข้อมูล โดยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลระดับชาติที่เชื่อมโยงข้อมูลที่กระจัดกระจายในแพลตฟอร์มและพอร์ทัลข้อมูลสาธารณะและส่วนตัวภายในปี 2568
รวมถึงมีแผนดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยี 6G เชิงพาณิชย์ และสร้างเครือข่ายนำร่องสำหรับการสื่อสารผ่านดาวเทียมพื้นต่ำ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบท
แผนยุทธศาสตร์ฉบับนี้ยังรวมถึงแผนการจัดตั้งเมืองปลอดคาร์บอน (carbon-neutral city) อย่างน้อย 10 แห่งภายในปี 2573 รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และตั้งเป้าที่จะระดมทุนมูลค่า 4,000 ล้านบาทเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมบันเทิง โดยหวังว่าเทียบชั้นกับดิสนีย์
รัฐบาลยังวางแผนที่จะจัดตั้งกองทุนนวัตกรรมมูลค่า 5,300 ล้านบาท เพื่อลงทุนในบริษัทที่ผลิตวัสดุ ชิ้นส่วน อุปกรณ์สำหรับแบตเตอรี่สำรอง และอุตสาหกรรมจอแสดงผล
และมีแผนที่จะเปิดตัวการทดสอบยานพาหนะเพื่อการเคลื่อนย้ายทางอากาศในเขตเมือง (Urban Air Mobility : UAM) ร่วมกับสมาคมท้องถิ่น 6 แห่งเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในปี 2568
นอกจากแผนการลงทุนในเชิงยุทธศาสตร์ที่มูลค่ามหาศาลแล้ว ในแผนยังระบุว่ารัฐบาลจะลดอุปสรรคด้านกฎระเบียบ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับด้านสุขภาพอนามัย การขนส่ง พลังงาน การท่องเที่ยว การเงิน สื่อบันเทิงและเนื้อหาอีกด้วย
ด้วยแผนการนี้ เกาหลีใต้ 4.0 กำลังวางตำแหน่งตัวเองในโลกอนาคตที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คนไทยจำนวนไม่น้อยคงอยากจะเห็นการแข่งขันเสนอนโยบายสู่อนาคตแบบนี้ ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้เช่นกัน.