"ผู้นำรัสเซีย" ฉุนขาดยูเครน บุกข้ามพรมแดน ก่อเหตุสังหารพลเรือน 2 ศพ
"หน่วยความมั่นคงรัสเซีย" อ้างในวันพฤหัสบดี (2มี.ค.) กองกำลังยูเครนได้ข้ามพรมแดนบุกรุกเข้ามาทางตอนใต้ของรัสเซีย และสังหารพลเรือน 2 คน ชี้ยูเครนพยายามยั่วยุด้วยการสังหารประชาชนบริสุทธิ์ ขณะที่รัฐบาลเคียฟออกมาปฏิเสธยืนยันไม่มีเจตนาอย่างสิ้นเชิง
แถลงการณ์มอสโกระบุว่า พื้นที่รัสเซียที่ติดชายแดนยูเครนมักถูกกองกำลังยูเครนยิงถล่มอยู่เป็นประจำ ซึ่งเหตุการณ์บุกรุกครั้งนี้หากพิสูจน์ได้ว่าโจมตีจริงจะเป็นกรณีที่ชัดเจนว่ากองกำลังเคียฟได้ข้ามดินแดนเข้ามาต่อสู้ในอธิปไตยรัสเซีย
ด้านนายคาอิโล โปโดลยาค (Mykhaylo Podolyak) ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของมอสโกอย่างรวดเร็ว
ขณะที่หน่วยความมั่นคง FSB ของรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า “กลุ่มชาตินิยมยูเครน” ได้ถูกผลักดันกลับข้ามไปยังพรมแดนของตนเองแล้ว หลังโดนขับไล่ด้วยปืนใหญ่
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในระหว่างรัฐบาลเคียฟสั่งอพยพประชาชนกลุ่มเปราะบางออกจากเมืองกันชน อย่างคูเปียนสค์ และเมืองอื่นๆ ที่อยู่ในดินแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เพราะเกรงว่ารัสเซียจะบุกเข้ายึดเมืองสำคัญที่เป็นทั้งศูนย์กลางขนส่งทางรางกลับคืน
สำหรับความขัดแย้งดังกล่าวได้ลามไปถึงการประชุมจี20 จัดขึ้นที่กรุงนิวเดลี ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเคนของสหรัฐได้เรียกร้องให้นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียให้ยุติการดำเนินการทางทหารในยูเครนโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประณามผู้โจมตีในเหตุการณ์นี้ โดยกล่าวหาว่าเป็น “พวกนีโอนาซีและผู้ก่อการร้าย” และยืนยันว่า รัสเซียจะสนองกลับด้วยการ "บุกพื้นที่ชายแดนยูเครนและเปิดฉากยิงพลเรือน" บ้าง