ทำไม “ฮ่องกง” แบนผลิตภัณฑ์กัญชา ท่ามกลางธุรกิจ CBD เมืองนี้ไปได้สวย

ทำไม “ฮ่องกง” แบนผลิตภัณฑ์กัญชา  ท่ามกลางธุรกิจ CBD เมืองนี้ไปได้สวย

ทางการฮ่องกงประกาศเตือนพลเมือง ชาวจีนและต่างประเทศ ห้ามนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของกัญชาเข้าฮ่องกง นี่เป็นการส่งสัญญาณว่า มาตรการเข้าเมืองและด่านศุลากรกำลังกลับสู่โหมดที่เข้มงวดก่อนโควิด-19 ท่ามกลางกระแสความต้องการตลาดสินค้าที่เกี่ยวกับ CBD เพิ่มสูงทั่วโลก

ในช่วงสองปีมานี้ "ฮ่องกง" หนึ่งในตลาดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบสารสกัดแคนนาบินอยด์ (Cannabidiol) หรือ CBD ที่มีแนวโน้มเติบโตดีที่สุดในเอเชีย ยกตัวอย่างครีมทาหน้าที่มีส่วนผสม CBD จากกัญชา ซึ่งเป็นยาเสพติดที่ถูกจัดอยู่ในประเภทเดียวกับเฮโรอีน หรือเมทแอมเฟตามีน

บลูมเบิร์กรายงานว่า ล่าสุด ฮ่องกงออกกฎหมายใหม่เอาผิดผู้บริโภคและครอบครองผลิตภัณฑ์ที่มีสารประกอบ CBD มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และใครก็ตามที่ถูกตรวจค้นว่าได้ทำการนำเข้า ส่งออก หรือผลิตกัญชา จะต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต และปรับ 5 ล้านดอลลาร์ฮ่อง หรือประมาณ 637,000 ดอลลาร์

อุตสาหกรรม CBD ในฮ่องกงเติบโตดี

หากย้อนไปดูก่อนหน้า รัฐบาลฮ่องกงจำกัดการห้ามกัญชา และสารเตตระไฮโดรแคนนาบินอลที่ส่งผลทางจิต (THC) ก็เพื่อให้อุตสาหกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบ CBD ที่ตั้งขึ้นในฮ่องกงสามารถเติบโตขึ้นได้

ฮ่องกงเปิดตัวแคมเปญ “Hello Hong Kong” หวังพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวจีนและต่างประเทศจำนวนมาก เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังล็อกดาวน์เมืองในช่วงแพร่ระบาดโควิด-19  ซึ่งในปีที่แล้วหดตัว 3.5% 

 

ทำไม “ฮ่องกง” แบนผลิตภัณฑ์กัญชา  ท่ามกลางธุรกิจ CBD เมืองนี้ไปได้สวย

ม็อบทำได้ ครอบครองกัญชาห้ามทำ

ตอนนี้บอกเลยว่า คนฮ่องกง จะไม่ได้รับการอนุญาตครอบครองผลิตภัณฑ์และสินค้าใดๆ ที่มีส่วนประกอบของ CBD หรือแม้แต่ยาบรรเทาอาการปวดก็ห้าม ซึ่งไม่เหมือนกับการได้รับสิทธิการชุมนุมประท้วงที่ทางการอนุญาตให้ทำได้

"ซัล เคยา" ผู้ก่อตั้ง iCAN และธุรกิจกัญชาในอิสราเอล กล่าวว่า "สมมติว่าคุณมาจากประเทศในยุโรป ออสเตรเลีย สหรัฐบางรัฐที่อนุญาตให้ใช้กัญชงกัญชาอย่างถูกกฎหมาย แล้วถ้าคุณนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบ CBD เข้ามายังเมืองฮ่องกงไม่ว่าจะช่องทางไหน ก็เป็นสิ่งผิดกฎหมายทั้งสิ้น

ยึดกัญชาทุกช่องทางนำเข้าไปในฮ่องกง

เจ้าหน้าที่ฮ่องกงยึดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ CBD ครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว โดยเป็นพัสดุทางอากาศจากเดนมาร์ก ที่ระบุว่าเป็นสกินแคร์เซรั่ม

คำประกาศสั่งห้ามดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากสาร CBD ได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วโลก เพราะคุณสมบัติหลักๆ ช่วยให้ผ่อนคลายไปจนถึงระงับอาการปวด

 

ทำไม “ฮ่องกง” แบนผลิตภัณฑ์กัญชา  ท่ามกลางธุรกิจ CBD เมืองนี้ไปได้สวย

แนวโน้มตลาด CBD ในเอเชีย

แม้แต่ประเทศในเอเชียที่มองกัญชาแบบติดลบก็ยังเปิดใจ อย่างเกาหลีใต้ออกกฎหมายใช้กัญชาทางการแพทย์ในปี 2561 แต่ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาแผนดำเนินการคล้ายกันเพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วย

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในประเทศไทย กลายเป็นประเทศในเอเชียแห่งแรกที่ลดโทษถือครองกัญชา แม้สถานการณ์การเมืองและความชัดเจนทางกฎหมายจะบดบังอนาคตการเติบโตของอุตสาหกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาของไทย 

แต่ธุรกิจกัญชาได้ผุดขึ้นทั่วประเทศไทยแล้ว และชาวต่างชาติก็พากันไปซื้อหาได้ทั้งในร้านขายยาและร้านสินค้าจากสารสกัด CBD เช่น อาหารขนมที่มีส่วนผสมกัญชา และน้ำมันนวด

แน่นอน ถึงอย่างไรฮ่องกงไม่ใช่แห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียที่ออกกฎหมาย CBD ขณะที่การค้ายาเสพติดในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์และมาเลเซียอาจมีโทษถึงประหารชีวิต

 

ทำไม “ฮ่องกง” แบนผลิตภัณฑ์กัญชา  ท่ามกลางธุรกิจ CBD เมืองนี้ไปได้สวย

เบรคต่างชาติ ทำเงินในฮ่องกง

"ทอม ลอริเมอร์" ผู้ร่วมก่อตั้ง OTO ในลอนดอน ซึ่งขายสินค้าทุกอย่างที่เกี่ยวกับ CBD ตั้งแต่น้ำมันระเหยไปจนถึงเบียร์กัญชา กล่าวว่า บริษัทของเขากำลังจะทำเงินได้ 5 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในปี 2565 หลังได้ทำข้อตกกับส่งสินค้าไปวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในฮ่องกง

นโยบาย CBD ฮ่องกงเดินตามจีน 

แต่ตอนนี้ทางการฮ่องกงกลับออกกฎหมายแบนกัญชา ทำให้บริษัทของเราต้องเบรคแผนการตลาดทั้งหมดนี้ไว้ และประชาชนมีเวลา 3 เดือนในการทิ้งผลิตภัณฑ์ CBD ที่อยู่ในครอบครองทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมก่อตั้ง OTO กล่าวว่า ฮ่องกงตัดสินใจที่ได้เลือกดำเนินนโยบายตามจีน ซึ่งสวนทางกับกระแสโลกที่หันมายอมรับผลิตภัณฑ์จากกัญชงกัญชามากขึ้น แม้ว่าความต้องการของตลาดทั่วโลกจะต้องการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ CBD เพิ่มสูงขึ้นด้วย