‘อินเดีย’ หนุนท่องเที่ยวภาคเหนือ หนีอากาศร้อนปรอทแตก
‘อินเดีย’ หนุนท่องเที่ยวภาคเหนือ หนีอากาศร้อนปรอทแตก โดยอินเดียเป็นดินแดนที่มีความหลากหลายทั้งด้านภูมิศาสตร์ ศาสนา อาหาร มรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตั้งแต่เหนือสุดเทือกเขาหิมาลัยถึงป่าฝนเขตร้อนและชายหาดทางตอนใต้
สถานเอกอัครราชทูตอินเดียร่วมกับคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งรัฐมัธยประเทศและคณะกรรมการการท่องเที่ยวจัมมูและแคชเมียร์ร่วมกันจัดงาน “Incredible India Tourism Meet” เพื่อโปรโมทและฟื้นการท่องเที่ยวรัฐทางตอนเหนือของอินเดียที่มีอากาศเย็นตลอดปี หวังเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งของนักท่องเที่ยวชาวไทยในช่วงซัมเมอร์นี้
“ราเคศ สิงห์” เอกอัครราชทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า อินเดียได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวด้านจิตวิญญาณสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ และยังมีแหล่งมรดกโลกมากเป็นอันดับ 6 ของโลก
“อินเดียมีธรรมเนียมปฏิบัติต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่เรียกว่าอติถิ เทโว ภาวนา (Atithi Devo Bhavah) เปรียบผู้เดินทางมาเยือนด้วยความเคารพเทียบเท่ากับพระเจ้า ซึ่งจุดประกายให้รัฐบาลอินเดียเปิดตัวแคมเปญเรือธง “Incredible India” เพื่อโปรโมทอินเดียในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของอินเดียสู่สายตาชาวโลก ตลอดจนให้การต้อนรับชาวต่างชาติอย่างดีที่สุด” ราเคศ กล่าว
อินเดียและไทยมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ถักทอด้วยสายใยทางอารยธรรมและวัฒนธรรมที่ทำให้ใกล้ชิดกัน โดยมีรามเกียรติ์และพุทธศาสนาช่วยเชื่อมโยงและตอกย้ำอิทธิพลทางวัฒนธรรมสองประเทศ ในปีที่แล้ว อินเดีย-ไทยฉลองครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต ส่งเสริมความสัมพันธ์ให้เติบโตอย่างมั่นคงยิ่งขึ้นไป
โดยเฉพาะนโยบาย Act East ของอินเดียกับนโยบาย Act West ของไทย การแลกเปลี่ยนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ การค้าและการลงทุนที่ขยายเพิ่มขึ้น และการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนทำให้สายสัมพันธ์อินเดีย-ไทยพัฒนาไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนที่ครอบคลุมอย่างรอบด้าน
"หลังจากอินเดียยกเลิกข้อจำกัดโควิด-19 การเชื่อมต่อเที่ยวบินระหว่างไทยกับอินดียค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ เรามีเที่ยวบินมากกว่า 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ส่วนปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมาเยือนประเทศไทย 1 ล้านคน และนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 52,000 คนเดินทางมาเยือนอินเดีย" ราเคศ กล่าวและเสริมว่า แต่จำนวนนักท่องเที่ยวยังน้อยกว่าศักยภาพที่แท้จริงของทั้งสองประเทศสำหรับโอกาสในการท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวมีบทบาทอย่างมากในการสร้างความสัมพันธ์ของสองประเทศ ทั้งอินเดียและไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางต่างชาติ การแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวระหว่างอินเดียและไทยมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และประเพณีของกันและกัน
ราเคศ เล่าว่า อินเดียเป็นดินแดนที่มีความหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งในแง่ภูมิศาสตร์ ศาสนา อาหาร และมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม บอกเล่าผ่านภูมิประเทศตั้งแจ่เหนือสุดของเทือกเขาหิมาลัยที่ปกคลุมไปด้วยหิมะทางตอนเหนือไปจนถึงป่าฝนเขตร้อนและชายหาดกว้างใหญ่ที่มีทรายระยิบระยับทางตอนใต้ที่มีเนินทรายของ Rann of Kutch หรือทะเลทรายเกลืออันสวยงามทางตะวันตกจนจรดป่าชายเลนในอ่าวเบงกอล และธรรมชาติอันบริสุทธิ์
โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมสัตว์ป่าหายากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย เพื่อรับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับนักท่องเที่ยว
อินเดียพร้อมมอบประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม มรดก ธรรมชาติและสัตว์ป่า การผจญภัย ประสบการณ์ด้านอาหาร จิตวิญญาณ โยคะและสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
ถ้าพูดถึงอาหารการกิน อินเดียก็ได้รับการยกย่องให้เป็นประเทศที่มีอาหารหลากหลายและแหล่งเครื่องเทศที่โดดเด่น จัดเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของประเทศ ด้วยสูตรอาหารที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค รัฐต่อรัฐ และภายในชุมชนทำให้นักท่องเที่ยวได้ลองลิ้มรสชาติอาหารแปลกใหม่
เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลอินเดียสนับสนุนงบประมาณมากมาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบบูรณาการและนวัตกรรม ในการบริหารจัดการการท่องเที่ยว ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพื่อยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยว อาหารริมทางที่มีมาตรฐานสูง สุขอนามัย และความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากทั่วโลก
เอกอัครราชทูตอินเดีย กล่าวด้วยว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยพุทธที่เดินทางไปอินเดีย ส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการเดินทางแสวงบุญมาช้านาน และมักเยี่ยมชมพุทธสถาน ซึ่งเป็นที่เคารพในอินเดีย แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เกิดกระแสใหม่คือการสำรวจสิ่งมหัศจรรย์อื่นๆ ของอินเดียในหมู่นักท่องเที่ยววัยรุ่นหรือเยาวชน รวมทั้งภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ การท่องเที่ยวแนวผจญภัย และจุดหมายปลายทางในการเล่นสกี