เฉลยลังปริศนา!! 'คิชิดะ' นายกฯญี่ปุ่น หิ้วทัพพีไปฝาก 'เซเลนสกี' ถึงยูเครน

เรื่องราวควันหลงหลังการเยือนยูเครนแบบไม่มีการแจ้งล่วงหน้าของนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่น เดินทางไปพบกับ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ณ กรุงเคียฟเมื่อ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำเอาสื่อทั่วโลกต้องจับตา เพราะถือเป็นการย้ำชัดเจนว่า ญี่ปุ่นพร้อมยืนข้างยูเครน ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังส่อแววยืดเยื้อ และลากเอานานาประเทศลงมามีส่วนร่วมด้วยไม่มากก็น้อย

มุมหนึ่งที่ถือเป็นสีสันเบาๆ ควันหลงจากการเยือนครั้งนี้ ก็คือภาพจากบนรถไฟที่คิชิดะ และทีมงานใช้โดยสารจากโปแลนด์ไปยังกรุงเคียฟ โดยมีช็อตสั้นๆ ที่มีคนแคปส่งต่อกันในโซเชียล เป็นภาพทีมงานกำลังยกลัง “อุไมโบะ” ซึ่งเป็นขนมข้าวโพดอบกรอบยอดนิยมในญี่ปุ่น

Photo Credit : twitter @nalltama

- ขนมข้าวโพดอบกรอบยี่ห้อ "อุไมโบะ" ของทานเล่นยอดฮิตในญี่ปุ่น -

ทำเอาสื่อญี่ปุ่นรวมถึงโซเชียลถกเถียงกันใหญ่ หรือว่า “อุไมโบะ” ก็เป็นขนมโปรดของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เหมือนกัน!

หลังจากปล่อยให้เถียงกันอยู่หลายวัน ในที่สุดเรื่องก็เฉลยแล้วว่า ที่จริงของในลังนั้น ไม่ใช่ขนมอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่มันคือ “ทัพพีตักข้าว” ต่างหาก

แน่นอนว่า ถ้าไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น ก็อาจจะไม่เก็ตว่า ทำไมคิชิดะ ต้องหอบหิ้วทัพพีไม้ขนาด 50 เซนติเมตร ซึ่งผลิตในเมืองมิยาจิมะ จังหวัดฮิโรชิมา ไปถึงยูเครนด้วย?

นั่นเป็นเพราะ ทัพพีไม้ หรือที่เรียกว่า “ชาโมจิ” (Shamoji) จากเกาะมิยาจิมะ เชื่อกันว่าเป็นเครื่องรางนำโชค และจะนำมาซึ่งชัยชนะ โดยเมื่อตอนที่คิชิดะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เขาก็ได้ของขวัญเป็นทัพพีไม้หรือ ชาโมจิ เช่นเดียวกัน เพียงแต่อันใหญ่ยักษ์กว่าที่เอามาให้เซเลนสกีหลายเท่าตัว

ทั้งนี้ สำหรับความเชื่อในทางมงคลของชาโมจินั้น มีหลากหลายเรื่องเล่า ทั้งตำราที่เล่าย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงปี 1700 ตอนปลาย พระภิกษุบนเกาะมิยาจิมะได้สอนวิธีทำทัพพีไม้ศักดิ์สิทธิ์ให้กับชาวบ้านที่กำลังทุกข์ทรมานจากความยากจน ชาวบ้านก็เชื่อกันว่าชาคุจิมหัศจรรย์จะนำโชคลาภมาสู่ผู้ที่กินข้าวที่ตักด้วยทัพพีลี้ลับนี้

- ทัพพีไม้ตักข้าวขนาดยักษ์ที่จัดแสดงในศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (ภาพจาก miyajima.or.jp) -

หรือบางเรื่องเล่าก็บอกว่า สาเหตุที่เกาะมิยาจิมะโด่งดังเรื่อง “ทัพพีไม้นำโชค” ต้องย้อนกลับไปหลายร้อยปีก่อนมีพระซึ่งประจำอยู่ ณ วัดบนเกาะแห่งนี้ ต้องการหารายได้เข้าวัด จึงทำทัพพีไม้ขายเป็นที่ระลึก

ทั้งนี้ เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายกับพิณของ “เทพเบ็นไซเต็ง” หนึ่งในเทพแห่งโชคลาภทั้ง 7 ของญี่ปุ่น ทัพพีไม้ดังกล่าวก็เลยเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะเครื่องรางนำโชค และส่งผลให้กลายเป็นของฝากมีค่าอย่างในปัจจุบัน

- เทพเบนไซเต็ง หนึ่งในเจ็ดเทพเจ้าแห่งโชคลาภของญี่ปุ่น (ภาพจาก mythopedia.com) -

แต่ที่ดูจะใกล้เคียงกับสถานการณ์ที่ยูเครนกำลังเผชิญมากที่สุดเห็นจะเป็นตำนานที่เล่ากันว่า ในช่วงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่น ในช่วงปี 1904-1905 ในตอนนั้นทหารญี่ปุ่นได้ทำพิธีตักข้าวถวายศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ “อิตสึคุชิมะ” ในจังหวัดฮิโรชิมา ซึ่งว่ากันว่า นั่นเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตชาโมจิขึ้น

สำคัญ คือ ผลลัพธ์หลังจากนั้น “ญี่ปุ่นชนะสงคราม” มีชัยเหนือรัสเซีย จึงเป็นไปได้ว่า นี่คือ เหตุผลหลักที่ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จึงได้หอบหิ้วทัพพีไม้มงคลนี้มามอบให้กับ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ในการมาเยือนกรุงเคียฟครั้งนี้

 

อ้างอิง : soranews24 , fun-japan , gplace