‘ไทย-เวียดนาม-อินเดีย-กัมพูชา’นั่งแท่นฐานผลิตชิปแทนจีน-ไต้หวัน

‘ไทย-เวียดนาม-อินเดีย-กัมพูชา’นั่งแท่นฐานผลิตชิปแทนจีน-ไต้หวัน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ไทย เวียดนาม อินเดีย และกัมพูชา กลายเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงในปีนี้ในฐานะเป็นฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์โลก (ชิป) ที่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนจากเดิมที่ฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์จะอยู่ที่ไต้หวัน และจีน สองประเทศนี้เท่านั้น

ข้อมูลจากทางการสหรัฐ ระบุว่า  การนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิปของสหรัฐเพิ่มขึ้น 17%  เทียบจากปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 4.86  พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนก.พ. แยกเป็นการนำเข้าจากเอเชียในสัดส่วน 83%  เริ่มจากอินเดียที่ส่งออกเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น 34 เท่า เป็นมูลค่า 152 ล้านดอลลาร์ ส่วนกัมพูชา การส่งออกเพิ่มขึ้นมากถึง 698%        

ส่วนเวียดนามและไทย ซึ่งต่างก็มีส่วนแบ่งในตลาดการผลิตชิปเพิ่มขึ้นมาก มีการส่งออกไปสหรัฐเพิ่มขึ้นประมาณ 75% และ62% ตามลำดับ และเวียดนามส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไปสหรัฐในสัดส่วนกว่า 10% ติดต่อกัน 7 เดือน

อย่างไรก็ตาม คณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐวิตกกังวลมากขึ้นว่าจะพึ่งพาบรรดาซัพพลายเออร์ต่างประเทศมากไป โดยเฉพาะการพึ่งพาชิปจากไต้หวันและเกาหลีใต้

“การพึ่งพาชิปจากไต้หวันเป็นเรื่องไม่ปลอดภัย”จินา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กล่าวในการประชุมประจำปีแอสเพน  ซิเคียวริตี ฟอรัม ในโคโลราโด ในเดือนก.ค ปีที่แล้ว   

ข้อมูลเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ระบุว่า บริษัทสหรัฐเริ่มลดการพึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์ ด้วยการสร้างความหลากหลายในระบบซัพพลายเชน  ซึ่งรวมถึงบริษัทแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ที่ค่อยๆย้ายฐานการผลิตไอโฟนออกจากจีนไปยังประเทศอื่น  เช่น อินเดีย 

เซมิคอนดักเตอร์เป็นชิ้นส่วนอัจฉริยะสำคัญในทุกอย่างตั้งแต่คอมพิวเตอร์ มือถือและเครื่องใช้ภายในบ้าน  และกำลังเป็นสิ่งสำคัญที่บั่นทอนความสัมพันธ์ทวิภาคีของสหรัฐและจีน หลังจากที่ทั้งสองประเทศเริ่มคิดหาทางแก้ปัญหาคอขวดในระบบห่วงโซ่อุปทาน