หวั่น! อสังหาฯยุโรปล้ม เป้าหมาย วิกฤติ ศก.ต่อไป
ความกังวลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปมีเพิ่มขึ้น บรรดานักลงทุนบางคนพากันตั้งคำถามว่า วิกฤตการณ์ครั้งต่อไปจะเกิดกับธุรกิจอสังหาฯ หรือไม่ หลังระเบิดลงลูกใหญ่กับธนาคารสองแห่งในสหรัฐและยุโรป
ภาวะเงินเฟ้อทำให้หลายประเทศเลือกใช้มาตรการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้อัตราเงินกู้ยืมเพิ่มสูง ขณะที่การประเมินราคาอสังหาฯกลับลดต่ำลง สวนทางกับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่ธุรกิจนี้ครองตำแหน่งต้นๆ ในการทำรายได้สูง
การล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ในสหรัฐเมื่อเดือนมีนาคม และวิกฤติการเงินที่เกิดขึ้นกับเครดิตสวิสในช่วงเวลาที่ติดๆกัน ทำให้เกิดความกลัวสิ่งที่เรียกว่า “วงจรหายนะ” เพราะสถานการณ์ภาคการเงินการธนาคารอาจฉุดภาคอสังหาริมทรัพย์แย่ลงไปด้วย
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาธนาคารกลางยุโรปเตือน “สัญญาณที่ชัดเจนของความเปราะบาง” ในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยอ้างถึง “สภาพคล่องในตลาดที่ลดลงและการแก้ไขราคา” เป็นสาเหตุความไม่แน่นอน และเรียกร้องให้มีการควบคุมกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ใหม่เพื่อลดความเสี่ยงวิกฤตการณ์ขาดสภาพคล่อง
ปิแอร์ กราเมญญา กรรมการผู้จัดการของ European Stability Mechanism กล่าวกับซีเอ็นบีซีในวันศุกร์ (14 เม.ย.)ว่า ไม่อาจมองข้ามวิกฤติที่จะเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะเริ่มเห็นแรงกดดันทั้งสหรัฐและในยุโรป
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองทุนที่ได้ลงทุนโดยตรงในอสังหาริมทรัพย์เผยข้อมูลเงินที่ไหลออกไปสูงถึง 215 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เงินลงทุนเข้ามาประมาณ 370 ล้านดอลลาร์ นั่นหมายถึงมากกว่าครึ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ Citi มองว่าหุ้นอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปจะร่วงลง 20 - 40% ระหว่างปี 2566 - 2567 เนื่องจากผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด หุ้นอสังหาฯเสี่ยงตกลงถึง 50% ในปีหน้า