กต. เผยแผนอพยพ ‘คนไทยในซูดาน’ หากสถานการณ์จำเป็น
“โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ” เผยผลประชุมประเมินสถานการณ์และวางแผนอพยพคนไทยในซูดาน หากถึงขั้นมีความจำเป็น สถานทูตไทยในไคโร เร่งประสานรอบด้าน เช็กแถวคนไทยยืนยันทุกคนยังปลอดภัยดี
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันนี้ นายณัฐพล ขันธหิรัญ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานประชุมคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center - RRC) เพื่อติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในสาธารณรัฐซูดานจากการปะทะกันระหว่างกองทัพซูดานกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ Rapid Support Forces (RSF) ในกรุงคาร์ทูม และพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ
โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 15 หน่วยงาน รวมทั้งนายพุทธพร อิ้วตกส้าน เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร เข้าร่วม (ระบบประชุมทางไกล) โดยมีผลการประชุมสำคัญ ดังนี้
จากข้อมูล ณ วันที่ 19 เม.ย. 2566 มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 188 ราย (3 รายเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของ World Food Programme) และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 1,800 ราย โดยคาดว่า "สถานการณ์ความไม่สงบคงจะไม่ยุติโดยเร็ว"
ปัจจุบัน มีคนไทยพำนักอยู่ในประเทศซูดานประมาณ 250 คน ประกอบด้วยนักเรียนไทยมุสลิมประมาณ 200 คน
ส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ที่ International University of Africa ในกรุงคาร์ทูม
และส่วนที่เหลือเป็นคนไทยที่ทำงานหรือสมรสกับชาวซูดาน ซึ่งในชั้นนี้ทุกคนยังปลอดภัย
กระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ได้ประสานติดต่อกับหัวหน้าชุมชนไทยและนายกสมาคมนักเรียนไทยในประเทศซูดาน แต่ "สถานการณ์ความปลอดภัยยังไม่น่าไว้วางใจ" การสู้รบยังมีต่อเนื่อง จึงขอให้นักเรียนไทย คนไทยไม่ออกนอกเคหะสถาน
ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดเตรียมการช่วยเหลือที่จำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอาหารและน้ำดื่ม โดยประสานงานกับกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงคาร์ทูม
กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องได้หารือเตรียมพร้อมเรื่องการอพยพคนไทยไว้แล้ว "หากสถานการณ์ไปถึงขั้นที่จำเป็น"
อย่างไรก็ดี จะยังรอติดตามประเมินสถานการณ์ต่อไปก่อนในชั้นนี้ โดยได้จัดเตรียม "แผนอพยพไว้ทั้งทางอากาศ และทางบก" ซึ่งขณะนี้น่านฟ้าซูดานยังปิดอยู่ และเส้นทางการเดินทางทางบกยังคงไม่ปลอดภัยนัก
นอกจากนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูตต่างชาติประจำซูดานและอียิปต์ อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น และหน่วยงานของสหประชาชาติ เพื่อติดตามรับทราบสถานการณ์ในซูดานอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งขอรับความร่วมมือในการจัดเตรียมแผนอพยพร่วมกันด้วย
กระทรวงการต่างประเทศขอย้ำช่องทางการสื่อสาร หมายเลขฉุกเฉิน (096-165-7120 / 096-352-0513 / 096-352-9015) สำหรับญาติของนักเรียนและคนไทยในซูดานที่ประสงค์จะสอบถามสถานการณ์ รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ได้เปิดช่องทางการติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือที่หมายเลข +201 0164-01243 หรืออีเมล [email protected]