สิงคโปร์ขึ้นภาษีอสังหาฯ อีกรอบ ต่างชาติจ่ายหนักถึง 60%
สิงคโปร์ขึ้นภาษีอสังหาริมทรัพย์เพื่อลดความร้อนแรงของตลาดบ้าน ท่ามกลางความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นทุกขณะว่าความมั่งคั่งที่ทะลักเข้ามาอาจทำให้คนท้องถิ่นเข้าไม่ถึง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน รัฐบาลสิงคโปร์โดยกระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาแห่งชาติ และสำนักงานการเงินสิงคโปร์ขึ้นภาษีอสังหาริมทรัพย์มีผลตั้งแต่วันนี้ (27 เม.ย.) เป็นต้นไปพลเมืองสิงคโปร์ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ต้องเสียภาษี 20% จาก 17% บ้านหลังที่ 3 และหลังอื่นๆ เพิ่มจาก 25% เป็น 30% เช่นเดียวกับผู้มีถิ่นพำนักถาวรที่ซื้อบ้านหลังที่ 2
ชาวต่างชาติที่ซื้อบ้านส่วนตัวต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจาก 30% มาอยู่ที่ 60% ก่อนหน้านี้สิงคโปร์เคยขึ้นภาษีในเดือน ธ.ค.2564 และจำกัดการปล่อยสินเชื่อบ้านในเดือน ก.ย.2565 ความเคลื่อนไหวดังกล่าว “ส่งผลปานกลาง” ราคาอสังหาริมทรัพย์เมื่อไตรมาสล่าสุด “ส่งสัญญาณเร่งตัวอีกครั้งท่ามกลางความต้องการฟื้นตัวขึ้น”
แบรนดอน ลี นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป รายงานว่า การขึ้นภาษีสำหรับผู้ซื้อต่างชาติเป็นความ “โหดร้าย” แม้ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย เชื่อว่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อหุ้นบริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัย
ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า อัตราการขึ้นราคาบ้านจะชะลอตัวลงมากถึง 2% ในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า แต่จะไม่ลดลงเนื่องจากตลาดแรงงานดี ในไตรมาสแรกราคาบ้านขึ้นมาแล้ว 3.2%
ทั้งนี้ แม้ภาคอสังหาฯ ในประเทศอื่นซบเซาเพราะการขึ้นดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ แต่ในสิงคโปร์กลับยังคงเฟื่องฟู ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีเงินไหลเข้ามาโดยเฉพาะจากจีน
รัฐบาลสิงคโปร์ระบุ
“ความต้องการซื้อบ้านของคนท้องถิ่นแข็งแกร่งเป็นพิเศษ อีกทั้งนักลงทุนสิงคโปร์และต่างชาติกลับมาสนใจตลาดที่อยู่อาศัยอีกครั้ง หากไม่ควบคุมราคาอาจไปไกลเกินพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ด้วยความเสี่ยงที่ราคาจะเพิ่มอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับรายได้”
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงเมื่อช่วงเช้า หุ้นซิตี้ดีเวลอปเมนท์ร่วงมากถึง 4% หนักสุดในการซื้อขายระหว่างวันนับตั้งแต่ ก.พ.2565 ส่วนยูโอแอลกรุ๊ปลดลงมากถึง 2.9%
ความร้อนแรงในตลาดอสังหาฯ ยังส่งผลให้ค่าเช่าพุ่ง รายงานจากไนท์แฟรงก์ชี้ว่า สิงคโปร์เบียดนิวยอร์กขึ้นมาครองแชมป์ค่าเช่าแพงสุดในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณความไม่พอใจทั้งจากชาวสิงคโปร์และชาวต่างชาติ ผลสำรวจยูกัฟเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนสองในสามควรให้ความสำคัญกับการซื้อบ้านได้มากกวานี้ ผลสำรวจอีกชุดหนึ่งของหอการค้ายุโรปก่อนหน้านี้ชี้ว่า ธุรกิจ 69% กำลังพิจารณาย้ายพนักงานออกไปนอกสิงคโปร์โดยปราศจากความช่วยเหลือใดๆ เนื่องจากค่าเช่าสูงขึ้น
การเติบโตของตลาดบ้านในสิงคโปร์ตรงข้ามกับศูนย์กลางการเงินฮ่องกง ที่ประชาชนพากันย้ายออกในช่วงโควิดระบาด เดือน ก.พ.ฮ่องกงลดอัตราภาษีให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรกมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อช่วยให้ประชาชนมีบ้าน ส่วนชาวต่างชาติต้องเสียภาษีอสังหาฯ 30%