สุดทน!150 ซีอีโอบริษัทดังสหรัฐร่วมกดดันสภาเพิ่มเพดานหนี้

สุดทน!150 ซีอีโอบริษัทดังสหรัฐร่วมกดดันสภาเพิ่มเพดานหนี้

ซีอีโอบริษัทชั้นนำในสหรัฐเกือบ 150 คนส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีไบเดนและผู้นำในสภาคองเกรส เตือนถึงหายนะที่จะตามมา หากไม่เพิ่มเพดานหนี้ ทำให้รัฐบาลต้องผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

จดหมายเปิดผนึกที่ส่งถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน และผู้นำในรัฐสภาเมื่อวันอังคาร ได้รับการลงนามโดยซีอีโอจากบริษัทและสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่รวมเกือบ 150  ราย เช่น มอร์แกน สแตนลีย์, โกลด์แมน แซคส์, แนสแด็ก และเจ็ตบลู นับเป็นการส่งคำเตือนที่หนักแน่นที่สุดจากภาคธุรกิจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เนื้อหาในจดหมายระบุว่า หากประเทศผิดนัดชำระหนี้ จะทำให้สถานะของสหรัฐฯ ในระบบการเงินโลกอ่อนแอลง พร้อมกับเตือนว่า ในปี 2554 ที่สหรัฐฯ ใกล้ความเสี่ยงที่สุดที่จะผิดนัดชำระหนี้จากการงัดข้อทางการเมืองในสภา ทำให้สหรัฐฯ ต้องสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุด AAA และเป็นปีที่ทุกข์ยากสำหรับตลาดและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความผันผวนที่ตึงเครียดจากวิกฤต ส่งผลให้ตำแหน่งงานลดลลง 1.2 ล้านตำแหน่ง ) และมูลค่าเศรษฐกิจลดลง 180,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่ยังไม่ได้เกิดการผิดนัดชำระหนี้อย่างแท้จริง

'เจเน็ต เยลเลน' รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ระบุในจดหมายเปิดผนึกที่ส่งถึงผู้นำรัฐสภาเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ว่า รัฐบาลอาจผิดนัดชำระหนี้อย่างเร็วภายในวันที่ 1 มิ.ย. หากสภาไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ หลังหนี้ทะลุ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ไปแล้วตั้งแต่เดือนม.ค.

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้หารือกับผู้นำสูงสุดในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเข้าร่วมหารือที่ทำเนียบขาวแล้ว 2 ครั้งเพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ โดยยังไม่อาจได้ข้อสรุป

วุฒิสมาชิก ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต เชิญเจมี ไดมอน ซีอีโอ เจพีมอร์แกน เชส และผู้บริหารธนาคารชั้นนำอีกหลายคนเข้าร่วมหารือเมื่อวันพุธ เพื่อเรียกร้องให้พวกเขาผลักดันให้สมาชิกสภาคองเกรสตัดทางเลือกผิดนัดชำระหนี้ที่อันตรายออกจากโต๊ะการเจรจา