วิกฤติอาหารเส้น! อิตาลีเรียกประชุมด่วน หลังราคาพาสต้าแพงจัด
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานวันนี้ (23 พ.ค.) ว่า ราคาพาสต้าซึ่งเป็นอาหารจานหลักยอดนิยมในอิตาลีพุ่งสูงขึ้นมาก โดยราคาที่พุ่งสูงนี้ที่เป็นเหตุผลเพียงพอให้รัฐบาลอิตาลีจัดประชุมภาวะวิกฤติ
กระทรวงการธุรกิจรายงานข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอิตาลี (ISTAT) ระบุว่า ราคาพาสต้าพุ่งขึ้น 17.5% ในเดือนมี.ค. และ 16.5% ในเดือนเม.ย. ขณะที่ข้อมูลจากรีฟินิทีฟ เปิดเผยว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว นับเป็นสองเท่าของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอิตาลี ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.7% ในเดือนมี.ค. และ 8.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี
แอสซูเทนติ ซึ่งเป็นองค์กรเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิผู้บริโภคกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ราคาพาสต้าในร้านอาหารพุ่งขึ้น 6.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ขณะที่ผลสำรวจในปี 2565 ขององค์กรพาสต้านานาชาติ ระบุว่า ชาวอิตาลีบริโภคพาสต้าโดยเฉลี่ยเกือบ 23 กิโลกรัมต่อปี
ราคาขายปลีกของพาสต้าที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากความจริงที่ว่าผู้ผลิตกำลังขายพาสต้าที่ตุนไว้ ซึ่งผลิตขึ้นในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น
"นี่เป็นเพราะการระบายของในสต็อกที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ราคาแพงขึ้น" นายฟูริโอ ทรุซซี ประธานแอสซูเทนติกล่าว โดยอ้างอิงถึงราคาข้าวสาลีและราคาพลังงานที่สูงขึ้น
ในเดือนมี.ค. 2565 ราคาข้าวสาลีพุ่งสูดสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบกว่าทศวรรษ ในขณะที่การรุกรานยูเครนโดยรัสเซียเริ่มรุนแรงขึ้น ซึ่งทั้งรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่สู่ตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม นายทรุซซีบ่งชี้ว่า ราคาต้นทุนวัตถุดิบถูกลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนราคาพาสต้าที่สูงขึ้นในตอนนี้มีแรงหนุนจากปัจจัยด้านอื่น ๆ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรระบุว่า ราคาข้าวสาลีระหว่างประเทศในเดือนเม.ย. ลดลง 2.3% สู่ระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนก.ค. 2564
ด้านนางนันทิตา รอย เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการภายนอกของธนาคารโลกกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า "ราคาข้าวสาลีลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากการรุกรานยูเครน แต่ราคาก็ยังคงอยู่ในระดับสูง"