สหรัฐลั่นสนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตยไทย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐ ระบุ ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์การเมืองที่เปราะบาง ภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลงในเดือนที่แล้ว และเป้าหมายของสหรัฐคือ การสนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ และมีเสถียรภาพ
นายเคิร์ท แคมป์เบลล์ ผู้ประสานงานอินโด-แปซิฟิกของทำเนียบขาว กล่าวในงานเสวนาที่สถาบันฮัดสันเมื่อวันอังคาร (6 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น
“สหรัฐจับตาการเลือกตั้งในประเทศไทย อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และเรามองว่าไทยกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง โดยเฉพาะในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่”
นายแคมป์เบล กล่าวด้วยว่า สหรัฐกำลังมองหาแนวทางในการกระชับความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศพันธมิตรและประเทศที่เป็นหุ้นส่วนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย โดยมีเป้าหมายที่จะคานอำนาจจีน ซึ่งกำลังแผ่ขยายอิทธิพลในภูมิภาคแห่งนี้ พร้อมกับกล่าวว่า สหรัฐต้องการรักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งกับไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญาที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐในภูมิภาคเอเชีย
“บริษัทจำนวนมากเข้าไปลงทุนในประเทศไทย สหรัฐเองก็มีโครงการทางทหารที่แข็งแกร่ง และมีความร่วมมือกับกองทัพของไทย ผมไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ที่ผ่านมานั้นการเมืองของไทยไร้เสถียรภาพ และมีความซับซ้อน ผมยืนยันว่าเป้าหมายของสหรัฐคือ การสนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพในประเทศไทย และเราจะร่วมงานกับรัฐบาลไทยนับจากนี้” นายแคมป์เบล ย้ำ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคการเมืองอีก 6 พรรค เพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งบริหารประเทศมาตั้งแต่เข้าทำรัฐประหารในปี 2557
แต่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายด้าน ซึ่งรวมถึงกรณีการถือหุ้นสื่อ และการต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสมาชิกที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ โดยคาดว่าวุฒิสมาชิกจะเริ่มโหวตรับรองนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายในเดือนส.ค.นี้
อย่างไรก็ดี ล่าสุดเมื่อวานนี้ นายพิธาได้ชี้แจงถึงเรื่องหุ้นบมจ.ไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น ว่า ขณะนี้ได้โอนหุ้นให้กับทายาทไปแล้ว พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าเขาไม่ได้กระทำการใดที่เป็นการละเมิดกฎระเบียบของการเลือกตั้ง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์