ผู้ปกครองทั่วไต้หวันกังวลหนัก หลังครูให้เด็กกินยาแก้ไอผสมสารเสพติด
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การสืบสวนสอบสวนกรณีการวางยาเด็กปฐมวัยในไต้หวันสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วเกาะ ท่ามกลางความกังวลของบรรดาผู้ปกครองทั่วไต้หวัน
ครูหลายคนของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในนครนิวไทเปของไต้หวันถูกกล่าวหาว่า วางยาระงับประสาทเด็กอนุบาลด้วยยาแก้ไอชนิดน้ำที่มีส่วนผสมของฟีโนบาร์บิทัล (phenobarbital) และเบนโซไดอะซีพีน (benzodiazepines) ซึ่งเป็นสารเสพติด
ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในกรณีดังกล่าวเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และระบุว่ายังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าทำไมเด็ก ๆ ถึงถูกป้อนยาแก้ไอที่มีส่วนผสมซึ่งทำให้เสพติด
อย่างไรก็ตาม เรื่องอื้อฉาวดังกล่าวได้จุดชนวนให้หลายครอบครัวออกมาประท้วงนอกสถานที่ราชการ โดยประชาชนหลายร้อยคนได้เข้าร่วมเดินขบวนประท้วงในนครนิวไทเปเมื่อวันอาทิตย์ (18 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่มีการสอบสวนที่โปร่งใสมากขึ้น โดยหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ
นอกจากนี้ ยังมีอีกกรณีที่คล้ายคลึงกันซึ่งเกี่ยวข้องกับการแพทย์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) ในเมืองเกาสง ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของเกาะ โดยหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ระบุว่า พบแพทย์ 4 รายมีความผิดฐานประพฤติมิชอบและใช้ยาฟีโนบาร์บิทัลผิดวัตถุประสงค์กับเด็กประมาณ 20 คน ซึ่งแพทย์กลุ่มนี้ทั้งหมดถูกสั่งงดปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 6 เดือนและปรับ 1.4 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (46,121 ดอลลาร์)
เภสัชกรชาวไต้หวันกล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า แม้จะพบได้ยาก แต่ยาแก้ไอและยาโรคทางเดินอาหารบางชนิดมีสารฟีโนบาร์บิทัล