จัดงานใหญ่หลายงาน! ราชวงศ์อังกฤษใช้จ่ายเกินรายรับ

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ระหว่างปี 2565-2566 สำนักพระราชวังอังกฤษ ใช้จ่ายสุทธิ 107.5 ล้านปอนด์ (4,891 ล้านบาท) ขณะที่เงินปีที่ได้รับรวม 86.3 ล้านปอนด์(3,926 ล้านบาท) รายได้เพิ่มเติมอื่น 9.8 ล้านปอนด์ (446 ล้านบาท) ที่รายจ่ายสูงกว่ารายรับเนื่องจากเป็น “ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน” ในสำนักพระราชวัง ปี 2565 มีพระราชพิธีบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ส่วนเดือน พ.ค.นี้ปีนี้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 อีกทั้งขณะนี้กำลังมีการตกแต่งพระราชวังบักกิงแฮมด้วย

ทั้งนี้ ราชวงศ์อังกฤษ มีรายได้จากสามแหล่งสำคัญ ได้แก่ เงินปีส่วนพระองค์, อาคารของสำนักงานจัดการสินทรัพย์ส่วนพระองค์ ดัชชีแห่งแลงคาสเตอร์และดัชชีแห่งคอร์นวอลล์ และอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนส่วนพระองค์ ซึ่งเงินปีเป็นเงินที่ได้จากรัฐบาล ครอบคลุมค่าเดินทาง ดูแลความปลอดภัย บุคลากรและค่าบำรุงรักษาพระราชวัง

แถลงการณ์สำนักพระราชวังบักกิงแฮม ระบุ “รายจ่ายอย่างเป็นทางการมากกว่าเงินปีและรายได้เสริมอื่นๆ ด้วยค่าใช้จ่ายสุทธิ 107.5 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5% เนื่องจากมีงานสำคัญเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาพระราชวังบักกิงแฮม ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเปลี่ยนรัชสมัย และผลกระทบจากเงินเฟ้อสูงขึ้น 10.1%”

ค่าใช้จ่ายทางการที่พุ่งสูงทำให้เงินปีส่วนพระมหากษัตริย์สำรองลดลง 20.7 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา

จากจำนวนเงินปีส่วนพระมหากษัตริย์เมื่อเทียบกับสหราชอาณาจักรมีประชากรราว 67 ล้านคน เท่ากับว่าประชาชนหนึ่งคนต้องจ่ายเงินปี 1.29 ปอนด์ (58.7 บาท)

แม้เงินปีส่วนพระมหากษัตริย์ปี 2565-2566 เท่ากับปี 2564-2565 แต่กลุ่มต่อต้านสถาบันวิจารณ์ว่าราชวงศ์ใช้เงินสาธารณะเพิ่มมากขึ้นทุกปี และว่าสำนักพระราชวังปิดบังตัวเลข

“ราชวงศ์ปิดบังค่าใช้จ่ายที่แท้จริงมานานแล้ว ตัวเลขที่พวกเราหามาน่าจะอยู่ที่ 345 ล้านปอนด์เป็นอย่างน้อย (15,700 ล้านบาท) มากพอจะจ้างครูหรือพยาบาลใหม่ได้ 13,000 คน การพยายามแก้ตัวด้วยการเอาผู้ชาย ผู้หญิง เด็กทุกคนมาหารตัวเลขค่าใช้จ่ายถือเป็นเรื่องไร้สาระ ตัวเลข 345 ล้านปอนด์ของเราแม่นยำเสียยิ่งกว่ารายงานทางการ เราวัดต้นทุนจากสภาท้องถิ่น ตำรวจท้องถิ่น รายได้จากดัชชีทั้งสองแห่งและการดูแลความปลอดภัย” นายแกรห์ม สมิธ ประธานกลุ่ม“สาธารณรัฐ” รณรงค์ยกเลิกสถาบันกษัตริย์กล่าวพร้อมเรียกร้องให้กษัตริย์มีความโปร่งใสให้มากกว่านี้

“สิ่งที่ต้องถามต่อไปคือการใช้จ่ายถูกหลักจริยธรรม นำเงินสาธารณะไปใช้อย่างมีประโยชน์หรือไม่ และเงินก้อนนี้ควรนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้อีกบ้าง”

ปีนี้มีเสียงเรียกร้องให้ตรวจสอบความมั่งคั่งส่วนพระองค์และไลฟ์สไตล์ของกษัตริย์ชาลส์และราชวงศ์อังกฤษ เมื่อสหราชอาณาจักรต้องเผชิญวิกฤติค่าครองชี ประชาชนจำนวนมากไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟและความจำเป็นพื้นฐาน

ขณะเดียวกันคนรักราชวงศ์โต้แย้งว่า สถาบันกษัตริย์สร้างคุณค่าให้กับประชาชนผู้เสียภาษีมากกว่าเงินที่จ่ายไป ทั้งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและการบริโภค โดยเฉพาะเมื่อมีงานใหญ่