เอลนีโญมา ราคาข้าวเอเชียพุ่ง ไทยอาจกระทบหนัก
ราคาข้าวเอเชียพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 2 ปี เนื่องจากผู้นำเข้าข้าว กักตุนข้าวเพิ่ม เพราะกลัวว่าปรากฏการณ์เอลนีโญ จะทำให้พื้นที่เพาะปลูกแห้งแล้ง และพืชผลเสียหาย และไทย ผู้ส่งออกข้าวอันดับที่ 2 ของโลก อาจได้รับผลกระทบหนัก
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก อ้างอิงข้อมูลจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า เมื่อดูข้าวเกรดมาตรฐานในภูมิภาคเอเชีย พบว่า ราคาข้าวขาวหัก 5% ของไทย ทะยานสูงขึ้น 15% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา สู่ระดับ 535 ดอลลาร์ต่อตัน แพงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมี.ค.2564
ขณะที่ฝนมรสุมช่วยบรรเทาทุกข์นาข้าวในอินเดีย ผู้ส่งออกข้าวอันดับต้นๆ ของโลก แต่สภาพอากาศแห้งแล้งเป็นภัยคุกคามต่อพืชผลในประเทศส่งออกข้าวอันดับ 2 อย่างประเทศไทย ซึ่งอาจเผชิญกับความแห้งแล้งในหลายพื้นที่ตั้งแต่ต้นปี 2567 และรัฐบาลไทยขอให้ชาวนาจำกัดการปลูกข้าวเหลือเพียงรอบเดียวในปีนี้
“ชูเกียรติ โอภาสวงศ์” นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยว่า “เมื่อเอลนีโญมา เราจะเริ่มเห็นผลกระทบจากความแห้งแล้งช่วงเดือนก.ย.- ต.ค.2566 การกักตุนข้าวจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง เพราะเอลนีโญอาจลากยาวไปจนถึงปีหน้า”
ทั้งนี้ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เผยว่า เอลนีโญเกิดขึ้นในภูมิภาคแปซิฟิกเขตร้อนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ทำให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห้งแล้ง
ประเทศนำเข้าข้าวก็เริ่มกักตุนคลังข้าวในอัตราที่สูงมาก เวียดนามจึงคาดว่า การส่งออกข้าวอาจทะยานสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี และประเทศส่งออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์ จีน และอินโดนีเซียเพิ่มมากขึ้น
“เจเรมี ซวิงเกอร์” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทวิจัย The Rice Trader บอกว่า ผลกระทบเอลนีโญจะเกิดขึ้นในช่วงปีใหม่หรือไตรมาส 4 นี้ เว้นแต่ว่า การเมืองหรือสภาพอากาศจะเปลี่ยนทิศทาง และว่า ซัพพลายข้าวทั่วโลกยังคงมีอยู่มาก
ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ ระบุว่า คลังข้าวของโลกลดลงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้ คลังข้าวกำลังเพิ่มมากขึ้นเป็นประวัติการณ์
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาจีน รายงานว่า หลายพื้นที่ทางภาคใต้ของจีน อาจเกิดคลื่นความร้อนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และบางพื้นที่ของมณฑลหูหนานและเจียงซี ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวอันดับต้นๆ ของจีน อาจมีอุณหภูมิเพิ่มสูงถึง 40 องศาเซลเซียส เสี่ยงทำให้ข้าวสุกก่อนกำหนด
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์