เศรษฐกิจจีนน่าผิดหวัง ไตรมาส 2 ฟื้นแผ่ว
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนสูญเสียแรงส่งในไตรมาสสอง เสี่ยงจีดีพีปีนี้ทำได้ไม่ถึงเป้า ส่งผลต่อเนื่องถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จีนไตรมาสสองขยายตัวต่ำกว่าคาด 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ตอนที่หลายสิบเมืองยังถูกล็อกดาวน์ แต่หากเทียบกับไตรมาสหนึ่งลดลงเพียง 1%
ตอนนี้จีนกำลังเผชิญความเสี่ยงเงินฝืด เมื่อเงินเฟ้อลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 ขณะที่การว่างงานของคนหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นสูงกว่า 21%
ข้อมูลชุดนี้ช่วยเพิ่มเสียงเรียกร้องให้จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทุกสายตาจับจ้องไปที่การประชุมคณะกรมการเมือง (โปลิตบูโร) พรรคคอมมิวนิสต์หลังจากนี้ ซึ่งจะตัดสินใจนโยบายเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปักกิ่งบอกเป็นนัยว่า มาตรการกระตุ้นปีนี้น่าจะมีขนาดจำกัด สะท้อนเป้าการเติบโตปีนี้ที่ค่อนข้างต่ำราว 5%
นักเศรษฐศาสตร์ซิตี้กรุ๊ปมองว่า แม้แต่เป้า 5% ตอนนี้ก็ยังเสี่ยง ซิตี้กรุ๊ปหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจจีนปีนี้โต 5% จาก 5.5% มอร์แกนสแตนลีย์หั่นจาก 5.7% เหลือ 5% เช่นเดียวกับยูโอบีและเจพีมอร์แกนที่ลดคาดการณ์ลงมาจาก 5.6% และ 5.5% ตามลำดับ
ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ประจำเดือน มิ.ย.ชี้ว่า การใช้จ่ายเพื่อการบริโภค ตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจจีนเติบโตลดลง ยอดค้าปลีกเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับปี 2565 ลดลงจาก 12.7% ในเดือน พ.ค.
“สิ่งที่เราทุกคนคาดหวังคือการบริโภคและบริการฟื้นตัว ถ้าสะดุดก็ไม่มีเครื่องยนต์ไหนให้เศรษฐกิจได้ฟื้นตัว เราไม่อยากเชื่อข้อมูลเดือนเดียวมากเกินไป แต่ถ้าข้อมูลเดือน มิ.ย.สะท้อนการบริโภค นั่นไม่ใช่สัญญาณดี” นายลูอิส คูจส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเอสแอนด์พีโกลบอลเรตติงให้ความเห็น
เนื่องจากฐานต่ำเพราะการล็อกดาวน์ปีก่อน นักเศรษฐศาสตร์จึงเน้นเปรียบเทียบรายไตรมาสและอัตราการเติบโตเฉลี่ยสองปี ทั้งสองมาตรวัดชี้ว่า เศรษฐกิจจีนไตรมาสสองชะลอตัวลงจากไตรมาสหนึ่ง
การลงทุนโดยภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลงจากเดือน พ.ค.เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณความเสียหายในตลาดบ้านที่ยังไม่จบ
“อสังหาริมทรัพย์เป็นกุญแจแก้ปัญหานานัปการในขณะนี้ ธนาคารกลางจำเป็นต้องแก้วิกฤติสินเชื่อในหมู่บริษัทพัฒนาอสังหาฯ เพื่อช่วยให้พวกเขาอยู่รอด” แจ็กเกอลีน รง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนจากบีเอ็นพี พาริบาส ให้ความเห็น
ด้านนายฟู่ หลิงฮุ่ย โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนกล่าวว่า จีนกำลังเผชิญสภาพภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ซับซ้อน แต่ทั้งปีจีนยังสามารถเติบโตได้ตามเป้าราว 5%
ยอดค้าปลีกเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.1% ต่ำกว่า 3.2% ที่คาดการณ์ไว้ หากแยกประเภทสินค้ากีฬาและบันเทิง, แอลกอฮอล์ และยาสูบเพิ่มขึ้นมากที่สุด ยานยนต์, เครื่องใช้สำนักงาน และสินค้าประจำวันยอดขายเดือน มิ.ย.ลดลงจากปีก่อน
ยอดขายออนไลน์สินค้าจับต้องได้ขยายตัว 6.7% น้อยกว่าเดือน พ.ค. ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย. โต 4.4%
การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 3.8% ภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลงต่อเนื่องยิ่งกว่าในเดือน พ.ค. การลงทุนภาคการผลิตเติบโตในอัตราเท่าเดิม ส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเติบโตชะลอลง
อัตราว่างงานของประชาชนในเขตเมือง เดือน มิ.ย.อยู่ที่ 5.2% ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังโฆษกคาดว่า ในอนาคตอันใกล้การลงทุนภาคอสังหาฯ ยังคงต่ำ การว่างงานในหมู่คนหนุ่มสาวอาจเพิ่มขึ้นอีกก่อนลดลงหลังเดือน ส.ค.
ทั้งนี้ จีนยุติมาตรการควบคุมโควิด-19 ในเดือน ธ.ค.2565 ช่วงแรกเศรษฐกิจฟื้นตัวดีแต่ตอนนี้สูญเสียแรงส่ง ภาคอสังหาฯ ขนาดใหญ่มหึมากำลังดิ้นรนเอาตัวรอด ขณะที่การส่งออกดิ่งเหวเนื่องจากอุปสงค์โลกลด
ด้วยความต้องการของผู้บริโภคในประเทศซบเซาทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคจีนเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 0% สองสัปดาห์ก่อนธนาคารประชาชนจีน (พีบีโอซี) คาดว่าเงินเฟ้อเดือน ก.ค.ลดลงเล็กน้อย แต่เงินเฟ้อในระดับที่คาดการณ์ไว้จะดีขึ้นในปีนี้
อย่างไรก็ตาม การเดินทางภายในประเทศฟื้นตัวสดใส ประชาชนในเขตเมืองเพิ่มการใช้จ่ายท่องเที่ยวกว่าสองเท่าในครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 มาอยู่ที่ 1.98 แสนล้านหยวน (2.8 แสนล้านดอลลาร์)แต่ประชาชนในเขตชนบทใช้จ่ายเพิ่มขึ้นราว 40% รวมกันทั้งสองส่วนเม็ดเงินอยู่ที่ 2.3 ล้านล้านหยวน น้อยกว่า 2.78 ล้านล้านหยวนที่เคยทำได้ช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ก่อนโควิดระบาด
สองสัปดาห์ก่อน รัฐบาลปักกิ่งแถลงว่าจะขยายมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาฯ พร้อมกันนั้นได้ประกาศมาตรการเป็นวงกว้างหนุนการส่งออก ขยายเวลายกเว้นภาษีซื้อรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมดาวรุ่งที่รัฐบาลตั้งใจสนับสนุน
ทว่า รัฐบาลปักกิ่งยังลังเลที่จะใช้การกระตุ้นมากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหนี้รัฐบาลท้องถิ่นเพิ่มสูง การประชุมโปลิตบูโรในเดือนนี้น่าจะให้รายละเอียดว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจจีน
นายจิน เสียนตง คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (เอ็นดีอาร์ซี) กล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำเดือนเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ว่า เศรษฐกิจจีนเผชิญความยากลำบากในการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเผชิญความท้าทายจาก “อุปสงค์ที่ไม่เพียงพอ แรงผลักดันที่อ่อนแอ และความเชื่อมั่นที่อ่อนแอ”
นายจินระบุว่า กำลังซื้อและการคาดการณ์การบริโภคของผู้บริโภคค่อนข้างอ่อนแอ และมีความจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมการบริโภค
นายจินกล่าวเสริมว่าเอ็นดีอาร์ซีจะกำหนดและออกนโยบายทันทีเพื่อฟื้นฟูและเพิ่มการบริโภค
“เพื่อรักษาเสถียรภาพการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ เพิ่มการบริโภครถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงปรับสภาพแวดล้อมการบริโภคให้เหมาะสม เราจะออกนโยบายที่ปฏิบัติได้จริงและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนำไปใช้โดยเร็วที่สุด” นายจินระบุ
ความเป็นไปของเศรษฐกิจจีนส่งผลต่อส่วนอื่นๆ ของโลกอย่างแน่นอน หลายวันก่อน นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เตือนว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบลุกลามไปยังเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ แต่เธอเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอยในปีนี้
“หลายประเทศต้องพึ่งพาการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตน โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง แต่ตลาดแรงงานของเรายังคงมีความแข็งแกร่ง และดิฉันไม่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอย” นางเยลเลนกล่าว