สหรัฐ-จีน ตกลงเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็น 2 เท่า

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงาน (12 ส.ค.) ว่า เที่ยวบินระว่างประเทศ สหรัฐและจีน จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากระดับปัจจุบัน ภายในเดือน ต.ค. เนื่องจากทั้งสองประเทศผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางที่เคยกำหนดในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19

กรมการขนส่งสหรัฐ (ดีโอที) เผย (11 ส.ค.) ว่า ภายใต้ข้อตกลงระหว่าง สหรัฐ-จีน แต่ละประเทศจะเพิ่มเที่ยวบินไป-กลับ 6 เที่ยวต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เพิ่มขึ้นจากเที่ยวบินปัจจุบันที่มี 12 เที่ยวต่อสัปดาห์ จากนั้นสหรัฐและจีน จะเพิ่มเที่ยวบินเป็น 24 เที่ยวต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งจะให้บริการโดยสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ 3 แห่ง และสายการบินจีน 6 แห่ง

ดีโอทีกล่าวว่า

เป้าหมายที่สำคัญของการเพิ่มเที่ยวบิน คือ การรักษาสมดุลการแข่งขัน และโอกาสที่ยุติธรรมและเท่าเทียมกัน ระหว่างสายการบินของสหรัฐและจีน

ดีโอทีเสริมว่า หลังจาแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ เยือนจีนเมื่อเดือน มิ.ย. บ่งชี้ว่า ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างดีโอที กระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาลจีน ทำให้ข้อตลงด้านการเดินทางที่สำคัญนี้เป็นไปได้จริง

ด้านยูไนเต็ดแอร์ไลน์ โฮลดิงส์ อิงก์ เผยว่า สายการบินจะเพิ่มเที่ยวบินระหว่างซานฟรานซิสโกและเซี่ยงไฮ้ ตั้งแต่เดือน ต.ค. เป็นต้นไป และจะกลับมาให้บริการเที่ยวบินระหว่างเมืองในสหรัฐ และกรุงปักกิ่งในเดือนถัดไป

ข้อตกลงเพิ่มเที่ยวบินระหว่างรัฐบาลปักกิ่งและวอชิงตัน ที่ยังมีข้อขัดแย้งต่อกันอยู่หลายประการ เกิดขึ้นหลังจากจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางของกรุ๊ปทัวร์หลายประเทศ รวมถึงประเทศตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย

อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น 24 เที่ยว ยังคงเป็นเพียงเศษเสี้ยวของเที่ยวบินระหว่างสองประเทศนี้ ที่มีมากกว่า 150 เที่ยว ก่อนมาตรการควบคุมการเดินทางจะมีขึ้นช่วงต้นปี 2563 เพราะเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19

ทั้งนี้ หลังเกิด สงครามรัสเซีย-ยูเครน สายการบินสหรัฐย้ำว่า ไม่สามารถบินผ่านน่านฟ้ารัสเซียเพื่อไปจีนได้ ซึ่งทำให้การเดินทางบางเที่ยวบินมีความยาวนานมากขึ้น ขณะที่รอยเตอร์รายงานเมื่อเดือน มิ.ย. ว่า สายการบินจีนที่ได้รับอนุมัติเที่ยวบินไป-กลับสหรัฐ เลี่ยงบินผ่านน่านฟ้ารัสเซียเช่นกัน แต่ยังคงใช้น่านฟ้ารัสเซียสำหรับเที่ยวบินอื่น ๆ