เบื้องหลัง 'ซน ฮึง มิน' ที่มากกว่ากัปตันชาวเอเชียคนแรกของ 'สเปอร์ส'
เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการลูกหนัง เมื่อสโมสรฟุตบอลชื่อดังอย่าง “สเปอร์ส” ประกาศแต่งตั้งให้ “ซน ฮึง มิน” เป็นกัปตันทีมชาวเอเชียคนแรกอย่างเป็นทางการ พร้อมส่องบทบาทอื่นๆ ของหนุ่มคนนี้ที่น่าทึ่งมากกว่าการเป็นนักฟุตบอล
Key Points:
- “ซน ฮึง มิน” นักเตะสัญชาติเกาหลีใต้ดีกรีกัปตันทีมโสมขาว ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เป็นกัปตันทีมของสเปอร์สคนล่าสุด และเป็นคนเอเชียคนแรกที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าวในฟุตบอลลีกอังกฤษ
- เหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาได้รับตำแหน่งนี้ มาจากความสามารถทั้งในระดับทีมชาติและสโมสร ซึ่งเขาทำผลงานได้ดีตั้งแต่เริ่มเป็นนักฟุตบอลอาชีพตอนอายุ 18 ปี
- ไม่ใช่แค่ฟุตบอลเท่านั้นที่สร้างชื่อเสียงให้ ซน ฮึง มิน แต่เขายังเป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ดังระดับโลก ไปจนถึงเป็นทูตสันถวไมตรีของ “WFP” และตัวแทนขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีอีกด้วย
ไม่ใช่แค่เพียงประวัติศาสตร์หน้าใหม่สำหรับวงการลูกหนังอังกฤษเท่านั้น แต่ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ระดับโลก เมื่อ “ซน ฮึง มิน” หรือ “Son Heung-Min” กัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจาก สเปอร์ส หรือ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส (Tottenham Hotspur) 1 ใน 6 สโมสรฟุตบอลชื่อดังของอังกฤษ (The Big Six) ให้ดำรงตำแหน่งกัปตันทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการ
ซน ฮึง มิน (dailypost)
การที่ ซน ฮึง มิน ก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมของสเปอร์สอย่างเป็นทางการ ทำให้เขากลายเป็นคนเอเชียคนแรกที่รับตำแหน่งกัปตันทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (Premier League's) คนแรก แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมี พัค จี ซอง (Park Ji-Sung) เคยเป็นกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Manchester United) และทีมควีนส์พาร์กเรนเจอส์ (Queens Park Rangers) แต่ก็ไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แค่เพียงสวมปลอกแขนลงสนามแทนกัปตันตัวจริงในการแข่งขันบางนัดเท่านั้น
- “ซน ฮึง มิน” กัปตันทีมชาวเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์ “พรีเมียร์ลีก”
นักเตะดาวรุ่งชาวเกาหลีใต้ “ซน ฮึง มิน” ในวัย 31 ปี ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจาก ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ให้ดำรงตำแหน่ง “กัปตันทีม” คนล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา สร้างประวัติศาสตร์การเป็นนักฟุตบอลเชื้อสายเอเชียคนแรกในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่ได้รับตำแหน่งนี้ และสโมสรทีมดังกล่าวยังเป็น 1 ใน 6 ทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในลีกอังกฤษอีกด้วย (จากการจัดอันดับของ GOAL)
ซน ฮึง มิน เกิดวันที่ 8 ก.ค. 1992 ที่เมืองกังวอน ประเทศเกาหลีใต้ มีความสนใจและเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากคุณพ่อที่เป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติเกาหลีใต้ชุดบี ซน อึง จอง (Son Woong-Jung) ซึ่งทำให้ตัวเขาในปัจจุบันประสบความสำเร็จ
หลังจากนั้น ซน ฮึง มิน เติบโตมากับทีมฟุตบอลเอฟซี โซล (FC Seoul) และเมื่ออายุ 16 ปี เขาได้เริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักเตะในยุโรป ด้วยการเข้าร่วมสโมสรเยาวชนฮัมบวร์ก (Hamburger SV) ในเยอรมนี เมื่อปี 2008 ผ่านโครงการ Korean FA Youth Project ที่สนับสนุนให้นักฟุตบอลดาวรุ่งฝีเท้าดีได้ย้ายไปฝึกทักษะลูกหนังกับทีมชั้นนำในยุโรป
จากนั้นเมื่ออายุ 18 ปี ก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพ พร้อมเปิดตัวในลีกบุนเดสลีกา (Bundesliga) ในเดือน ต.ค. 2010 ลงเล่นทั้งหมด 78 นัด ทำประตูได้ทั้งหมด 20 ประตู และเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้อีกด้วย ก่อนจะย้ายไปสังกัดไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (Bayer Leverkusen) ในปี 2013 ลงเล่นทั้งหมด 87 นัด และทำไปได้ 29 ประตู ก่อนจะย้ายมายัง “สเปอร์ส” ในปี 2015 ทีมที่ให้โอกาสเขาได้เป็นกัปตันทีมในปัจจุบัน
- ความสำเร็จของ ซน ฮึง มิน ในฐานะนักเตะดาวรุ่ง
ผลงานของ “ซน ฮึง มิน” ไม่ได้มีแค่เฉพาะระดับสโมสรเท่านั้น แต่เขายังรับตำแหน่งกัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ ที่พาทีมเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ของฟุตบอลโลก 2022 ก่อนจะพ่ายให้กับบราซิล หนึ่งในทีมตัวเต็งระดับโลกด้วยคะแนน 1-4 ประตู อีกทั้ง ซน ฮึง มิน ยังติดทีมชาติมาแล้วทั้งหมด 111 นัด และยังได้รับรางวัลสำคัญในวงการฟุตบอลอีกมากมาย
ซน ฮึง มิน ในฐานะกัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ ฟุตบอลโลก 2022 (The Mirror UK)
หลังจบการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2021-2022 ซน ฮึง มิน เดินทางกลับมายังเกาหลีใต้พร้อมกับรางวัล “รองเท้าทองคำ” หรือ Golden Boot ที่ได้รับร่วมกับ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (Mohammed Salah) สโมสรลิเวอร์พูล (Liverpool) จากการทำประตูทั้งหมดคนละ 23 ประตู โดยถือเป็นรางวัลรองเท้าทองคำครั้งแรกของ ซน ฮึง มิน และที่สำคัญประตูที่เขาทำได้นั้น ไม่ได้มาจากการยิงจุดโทษเลยแม้แต่ลูกเดียว
ซน ฮึง มิน กับรางวัล Golden Boot (Football London)
นอกจากนี้เขายังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งเอเชียเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 ของเขา หลังจากเริ่มมีการประกาศรางวัลครั้งแรกเมื่อปี 2013 สำหรับวงการฟุตบอลเอเชีย รางวัลดังกล่าวเทียบเท่ากับ รางวัลบัลลงดอร์ (Ballon D’or) เลยทีเดียว
อีกหนึ่งรางวัลที่เรียกได้ว่าเป็นเกียรติของนักฟุตบอลอาชีพคือ ปุสกัส อวอร์ด (Puskas Award) สำหรับผู้เล่นที่สามารถยิงประตูได้สวยที่สุดในรอบปี ผ่านการโหวตจากแฟนบอล โดยประตูที่ทำให้ ซน ฮึง มิน ได้รางวัลมาจาก การพาบอลจากแดนตัวเองผ่านผู้เล่นของเบิร์นลีย์เข้าไปยิงประตูคนเดียว เมื่อ ธ.ค. 2019 ทำให้เขาได้รับการโหวตให้ได้รับรางวัลนี้ในปี 2020
ความสามารถของ “ซน ฮึง มิน” เรียกได้ว่าสร้างความภาคภูมิใจให้ชาวเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก เพราะแม้แต่ประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล (Yoon Suk-Yeol) ยังร่วมแสดงความยินดีผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “นี่คือโอกาสแห่งการเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยความสุขของชาวเอเชีย”
ชื่อเสียงของ ซน ฮึง มิน นั้น ถือว่าอยู่ในระดับศิลปินเกาหลีตัวท็อปเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากเรื่องของกีฬาแล้ว หลายแบรนด์ทั่วโลกต่างก็เลือกให้เขามาเป็นพรีเซ็นเตอร์
- ไม่ใช่แค่กีฬา แต่ยังเป็นหน้าตาของหลากหลายแบรนด์
นอกจากความโดดเด่นด้านกีฬาแล้ว ซน ฮึง มิน ยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ดังมากมาย ทั้งเสื้อผ้า นาฬิกา กระเป๋า แว่นตา รองเท้า ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงแบรนด์หรูระดับโลกจากอังกฤษอย่าง “Burberry” ที่ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์คลาสสิกที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปี 1856 และเขาได้มีโอกาสกระทบไหล่ แดเนียล ลี (Daniel Lee) ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ หัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์คนล่าสุดของ Burberry อีกด้วย
แดเนียล ลี และ ซน ฮึง มิน (IG : hm_son7)
สำหรับแบรนด์ดังอื่นๆ ที่ ซน ฮึง มิน ร่วมงานด้วย ได้แก่ Samsung ค่ายสมาร์ตโฟนยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้, Gentle Monster แบรนด์แว่นตาของเกาหลีใต้, Tumi แบรนด์กระเป๋าเดินทางจากอเมริกา, Adidas แบรนด์กีฬาชั้นนำของโลก, Asus บริษัทข้ามชาติของไต้หวัน ที่โดดเด่นด้านฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, Gillette ผลิตภัณฑ์สำหรับโกนหนวดของอเมริกา และ Calvin Klein แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอเมริกันที่มีน้ำหอมและชุดชั้นในเป็นจุดเด่น เป็นต้น
ซน ฮึง มิน ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ Adidas (IG : hm_son7)
ไม่ใช่แค่ตัวแทนแบรนด์เท่านั้น แต่เขายังเป็นตัวแทนของ “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี” และเป็นตัวแทนประเทศเกาหลีใต้ในตำแหน่งทูตสันถวไมตรีของโครงการอาหารโลก “WFP Goodwill Ambassador” อีกด้วย
ซน ฮึง มิน กล่าวถึงการดำรงตำแหน่งว่า “ในฐานะทูตสันถวไมตรี จะขอเป็นกระบอกเสียงเพื่อสนับสนุนการยุติปัญหาขาดแคลนอาหารที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่เสถียรภาพของโลก โดยเฉพาะผู้คนที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวจากความขัดแย้ง ภัยพิบัติ และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อน”
ซน ฮึง มิน ขณะรับตำแหน่ง ทูตสันถวไมตรี WFP (WFP)
ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของ “ซน ฮึง มิน” ไม่ได้เป็นที่รู้จักในระดับโลกในฐานะ “นักฟุตบอล” ฝีเท้าดีมีรางวัลการันตีเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพแทนของ “เกาหลีใต้” ที่ถูกฉายไปทั่วโลก ทั้งในมุมของแฟชั่นและผู้ที่ได้รับการยอมรับในด้านการทำงานเพื่อสังคม ที่สำคัญที่สุด.. ชื่อของเขาจะได้รับการจารึกไว้ในฐานะนักฟุตบอลชาวเอเชียคนแรกที่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมของสโมสรลีกอังกฤษอย่างเป็นทางการ
อ้างอิงข้อมูล : Tottenham Hotspur (1), Tottenham Hotspur (2), GOAL, Premier League, The Athletic, The Standard, SMM Sport, Daily Mail, Korea Times, Burberry, และ WFP