‘ทูตจีน’ ประกาศฉลองวันชาติ ครบ 74 ปี มุ่งสู่ทิศทางสังคมนิยมสมัยใหม่

สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทยจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 74 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้เชิญคณะทูตานุทูต บุคคลระดับสูงทั้งในทางการเมือง การต่างประเทศ วงการธุรกิจ และการศึกษาในประเทศไทยเข้าร่วมกันอย่างคึกคัก

นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย ได้เป็นประธานกล่าวเปิดงานมีใจความตอนหนึ่งว่า จีนได้กำหนดทิศทางอย่างชัดเจนไปสู่การพัฒนาและใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงประเทศไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความมุ่งมั่นของประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญได้มุ่งหน้าไปสู่การพัฒนาที่สำคัญครั้งใหม่ เพื่อสร้างสังคมนิยมสมัยใหม่ในทุกมิติ

“จีนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะครึ่งปีแรกของปี 2566 จะเห็นชัดเจนว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวถึง 5.5%” เอกอัครราชทูตจีนกล่าว

ทูตหานชี้ว่า จีนและไทยเป็นพี่น้องที่สนิทใกล้ชิดกัน โดยทั้งสองประเทศต่างมีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่จวบจนปัจจุบันที่ยังมีความเชื่อมโยงและได้ยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ให้มีความร่วมมือที่แน่นแฟ้น 

สิ่งสำคัญต้องยอมรับ จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทยและเป็นตลาดส่งออกหลัก รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนยังเป็นกลุ่มหลักของตลาดท่องเที่ยวไทยอีกด้วย 

ทูตหานยังกล่าวแสดงความยินดีและต้องการจะร่วมงานกับรัฐบาลใหม่ของไทย ภายใต้นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งขณะนี้ติดภารกิจเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติ (UNGA) ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์ก 

มีรายงานด้วยว่า ภายหลังนายกฯเศรษฐา เสร็จสิ้นภารกิจร่วมประชุม UNGA แล้ว จะเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่ง ตามที่ทูตหานได้นำข้อความจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเชิญนายเศรษฐาเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8 - 10 ต.ค.2566 

สำหรับในปีนี้ มีบุคคลสำคัญๆมาร่วมงาน เช่น นายโรเบิร์ต เอฟ.โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย  นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส ปรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)  

 นอกจากนี้ ยังมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจากกองทัพไทยได้ร่วมกันพบปะอย่างเป็นกันเอง