ปิดแหล่งก๊าซ "เชฟรอน" ในอิสราเอล หวั่นลูกหลง ส่งราคาก๊าซในยุโรปพุ่ง 11%
อิสราเอลสั่งปิดแหล่งก๊าซขนาดใหญ่ของเชฟรอนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนชั่วคราว ดันราคาก๊าซในยุโรปพุ่งขึ้นทันที 11%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างโฆษกของบริษัทเชฟรอนว่า กระทรวงพลังงานของอิสราเอลมีคำสั่งให้เชฟรอนปิดแหล่งก๊าซธรรมชาติ "ทามาร์" ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาลงชั่วคราว เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย หลังจากที่สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
โฆษกของเชฟรอนระบุว่า ความปลอดภัยของพนักงาน ชุมชนที่ทำงานด้วย สภาพแวดล้อม และสถานที่ทำงาน คือสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันว่าจะยังคงส่งมอบก๊าซธรรมชาติให้ลูกค้าในอิสราเอลและในภูมิภาคตามเดิม โดยจะมาจากแหล่งเลอเวียธาน ซึ่งอยู่ห่างขึ้นไปอีกทางตอนเหนือแทน
ทั้งนี้ การค้นพบแหล่งก๊าซดังกล่าวในอิสราเอลเมื่อช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจและทำให้อิสราเอลกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกพลังงาน โดยมีการส่งออกก๊าซบางส่วนไปยังอียิปต์และต่อไปยังยุโรป ซึ่งพยายามลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอยู่
รายงานระบุว่าราคาก๊าซในยุโรปปรับตัวขึ้นทันที 11% หลังจากการปิดแหล่งทามาร์ลงชั่วคราวในครั้งนี้ คาดว่าจะกระทบต่อการส่งออกก๊าซในแง่ปริมาณหรือระยะเวลา โดยก่อนหน้านี้อิสราเอลประกาศจะเพิ่มการส่งออกก๊าซให้อียิปต์มากขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ในขณะที่อียิปต์ก็ประกาศแผนว่าจะเริ่มการส่งออกก๊าซแอลเอ็นจีในเดือนนี้ เพื่อเตรียมรับกับช่วงฤดูหนาวในยุโรปที่กำลังจะมาถึง
ทั้งนี้ ทามาร์เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา พื้นที่ที่กำลังมีการสู้รบอย่างหนักในขณะนี้ บริษัทสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้จากแหล่งทามาร์ทั้งหมด 6 หลุม หลุมละ 7.1 - 8.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน