"ซาอุฯ" ยกหูคุยตรง "อิหร่าน" หวั่นสงครามทำเสถียรภาพ ตอ.กลางปั่นป่วน
มกุฏราชกุมารซาอุฯ กับประธานาธิบดีอิหร่าน โทรศัพท์สายตรงถึงกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีความพยายามฟื้นสัมพันธ์การทูตเมื่อต้นปีนี้ หวั่นสงครามที่สหรัฐหนุนหลังจะทำเสถียรภาพระส่ำระสาย
บลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย และประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กันเมื่อวันพุธที่ 11 ต.ค. เพื่อหารือแนวทางที่จะช่วยยุติสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส โดยนับเป็นการสนทนาสายตรงระหว่าง 2 ผู้นำเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีความพยายามฟื้นสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศนี้เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
สำนักข่าวซาอุดีเพรสนิวส์ รายงานถึงผลการหารือในครั้งนี้ว่า เจ้าชายบินซัลมานทรงย้ำถึงจุดยืนที่ไม่หวั่นไหวของซาอุฯ ในการยืนเคียงข้างชาวปาเลสไตน์ และสนับสนุนกระบวนการสันติภาพอย่างครอบคลุม
ขณะที่สื่อของทางฝั่งอิหร่านรายงานว่า ผู้นำทั้งสองได้ย้ำถึงความเป็นเอกภาพแห่งโลกอิสลาม และเห็นพ้องถึงความจำเป็นที่ต้องยุติการก่ออาชญากรรมสงครามต่อชาวปาเลสไตน์ พร้อมย้ำว่าการโจมตีของอิสราเอลและการให้ไฟเขียวของสหรัฐนั้นเป็นสาเหตุของความไร้เสถียรภาพอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ การหารือดังกล่าวเป็นการสนทนาสายตรงกันเป็นครั้งแรกของผู้นำสองประเทศ นับตั้งแต่มีความพยายามเจรจาฟื้นสัมพันธ์ทางการทูตที่มี "จีน" เป็นคนกลาง เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศนี้ต่างมีความเห็นที่ขัดแย้งกันมานานนับตั้งแต่การปฏิวัติอิหร่านในปี 1979 เช่น กรณีที่อิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธ เช่น เฮซบอลเลาะห์และฮามาส ขณะที่อิหร่านก็ไม่เห็นด้วยที่ซาอุฯ จะหันไปเจรจาฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตขอวอิสราเอล
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้กล่าวเตือนอิหร่านไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เนื่องจากวิตกว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะขยายวงกว้างขึ้น ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล โดยที่ผ่านมานั้น อิหร่านเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธฮามาสมาเป็นเวลานาน