สถานทูตไทยใน‘ฝรั่งเศส-เบลเยียม’เตือนพลเมืองเลี่ยงพื้นที่ฝูงชนหนาแน่น

สถานทูตไทยใน‘ฝรั่งเศส-เบลเยียม’เตือนพลเมืองเลี่ยงพื้นที่ฝูงชนหนาแน่น

สถานทูตไทยประจำกรุงบรัสเซลส์ เตือนผ่านเฟซบุ๊ก ให้พลเมืองไทยในเบลเยียมและลักเซมเบิร์กหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีคนรวมตัวกันหนาแน่น หลังเกิดเหตุกราดยิง ส่วนสถานทูตไทยในฝรั่งเศสเตือนพลเมืองระวังตัว หลังมีผู้ขู่ระเบิดพระราชวังแวร์ซายส์รอบ 2

สถานทูตไทยประจำกรุงบรัสเซลส์ ออกประกาศเตือนผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันอังคาร (17 ต.ค.) ให้พลเมืองไทยในเบลเยียมและลักเซมเบิร์กหลีกเลี่ยง พื้นที่ที่มีคนรวมตัวกันหนาแน่น อาทิ สถานที่แข่งขันกีฬา ห้างสรรพสินค้า และเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะในกรุงบรัสเซลส์เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม หลังเกิดเหตุกราดยิงในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ต.ค. จนทางการสั่งยกระดับการเตือนภัยก่อการร้ายในภูมิภาคบรัสเซลส์เป็นระดับสูงสุด

ในประกาศดังกล่าวระบุไว้ดังนี้

“1. ตามที่เกิดเหตุกราดยิงบริเวณ Place Sainctelette ใจกลางกรุงบรัสเซลส์ช่วงค่ำวันที่ 16 ตุลาคม 2566 มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ 1 ราย ทางการเบลเยียมได้ยกระดับการเตือนภัยก่อการร้ายในภูมิภาคบรัสเซลส์เป็นระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด โดยให้หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น และในภูมิภาคอื่นเป็นระดับ 3 นอกจากนี้ ยังได้ปิดทำการสถานที่ราชการหลายแห่งทั้งของเบลเยียมและของสหภาพยุโรปในวันที่ 17 ต.ค. และล่าสุด ทางตำรวจเบลเยียมได้จับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ จึงขอแจ้งเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในเบลเยียมให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีคนรวมตัวหนาแน่น อาทิ สถานที่แข่งขันกีฬา ห้างสรรพสินค้า เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะในกรุงบรัสเซลส์ และในการเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ สำหรับประชาชนที่อยู่นอกเขตกรุงบรัสเซลส์อาจงดหรือเลื่อนการเดินทางเข้ามายังกรุงบรัสเซลส์ หากไม่จำเป็น ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของทางการเบลเยียมจนกว่าจะสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้ ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการเบลเยียมอย่างเคร่งครัด
 

2. โดยที่ได้ปรากฏข่าวตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. เป็นต้นมาว่ามีการชุมนุมประท้วงเพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอลในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเบลเยียมและลักเซมเบิร์ก สถานเอกอัครราชทูตจึงขอให้คนไทยในทั้งสองประเทศหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุมประท้วงหากไม่จำเป็น และใช้ความระมัดระวังในทำนองเดียวกับข้อ 1 ติดตามข่าวสารท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง และตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง

กรณีคนไทยประสบเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทางหมายเลข โทร. ฉุกเฉิน +32 470 85 96 67 หรือทาง Facebook Page : Royal Thai Embassy Brussels ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”

ขณะที่ สถานทูตไทยประจำกรุงปารีสประกาศเตือนผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันอังคาร (17 ต.ค.) ให้พลเมืองไทยในฝรั่งเศสเพิ่มความระมัดระวังในการท่องเที่ยวและสัญจร เนื่องจากทางการฝรั่งเศสได้มีการแจ้งเตือนต่อเนื่องเกี่ยวกับการขู่วางระเบิดเพิ่มเติมนับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังฝรั่งเศสเพิ่งยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายภายในประเทศฝรั่งเศสเป็นระดับสูงสุด โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ทางการฝรั่งเศสต้องอพยพประชาชนออกจากพระราชวังแวร์ซายส์หลังจากที่ได้มีการแจ้งเตือนการวางระเบิดรอบ 2

ในประกาศดังกล่าวระบุว่า "ตามที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้มีประกาศเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2566 เกี่ยวกับการยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายภายในประเทศฝรั่งเศสเป็นระดับสูงสุด ปรากฏว่า ทางการฝรั่งเศสได้มีการแจ้งเตือนต่อเนื่องเกี่ยวกับการขู่วางระเบิดเพิ่มเติมนับตั้งแต่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงได้มีปฏิบัติการลำเลียงคนออกจากสถานที่สาธารณะ อาทิ โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในเมือง Saint-Cloud ชานกรุงปารีส (เขตที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้มีรายได้สูง)

ขอเรียนว่า ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยง-บ่ายวันอังคารที่ 17 ต.ค. ได้มีการอพยพผู้คนออกจากพระราชวังแวร์ซายส์ภายหลังจากที่ได้มีการแจ้งเตือนการวางระเบิด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกวาดหากับดักระเบิดในพื้นที่ ขณะที่พระราชวังฯ จะยังคงปิดมิให้เข้าชมตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ การแจ้งเตือนการวางระเบิดที่พระราชวังแวร์ซายส์มีขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งห่างจากครั้งแรกเพียง 3 วัน (14 ต.ค.)

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอประกาศย้ำให้ชาวไทยและนักท่องเที่ยวไทยในฝรั่งเศสเพิ่มความระมัดระวังในการท่องเที่ยวและสัญจร หมั่นประเมินบรรยากาศและความปลอดภัยของสภาพแวดล้อม และสังเกตเส้นทางที่จะเป็นทางออกจากพื้นที่ที่อยู่ในขณะนั้นได้เร็วที่สุด โดยพิจารณาหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนที่มีคนหนาแน่น นอกจากนี้ ขอให้ติดตามสถานการณ์และข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ และการประกาศของสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างใกล้ชิด


ทั้งนี้ หากมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือหากพบเห็นเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลและต้องการจะแบ่งปันข่าวสารให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ทราบ กรุณาติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +33 6 0359 97 05 และ +33 6 46 71 96 94