กำไร 'TSMC' ลดต่ำสุดในรอบ 4 ปี เหตุดีมานด์อิเล็กทรอนิกส์ซบเซา
ทีเอสเอ็มซี รายงานว่า รายได้ลดลง 10.83% จากปีก่อนสู่ระดับ 546,730 ล้านดอลาร์ไต้หวัน ขณะที่กำไรสุทธิร่วง 24.87% จากปีก่อน สู่ระดับ 211,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน เนื่องจากอุปสงค์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังคงซบเซา
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง (ทีเอสเอ็มซี) เผยกำไรไตรมาส 3 ที่ระดับ 211,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (2.37 แสนล้านบาท) เนื่องจากอุปสงค์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังคงซบเซา ซึ่งกำไรไตรมาสนี้ลดลงมากที่สุด นับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2562
ทีเอสเอ็มซี รายงานว่า รายได้ลดลง 10.83% จากปีก่อนสู่ระดับ 546,730 ล้านดอลาร์ไต้หวัน (6.61 แสนล้านบาท) ขณะที่กำไรสุทธิร่วง 24.87% จากปีก่อน สู่ระดับ 211,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (2.37 แสนล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม บริษัทบอกว่า รายได้ไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 13.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ซึ่งเป็นไตรมาสที่กำไรลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หลังโควิด-19 เช่น สมาร์ตโฟนและแล็ปท็อปลดลง แต่นักวิเคราะห์บอกว่า ชิปคงคลังของผู้ผลิตสมาร์ตโฟนและพีซีกำลังจะหมด จึงคาดว่าจะกลับมาสั่งชิปเพิ่มอีก
ทั้งนี้ ทีเอสเอ็มซี ผู้ผลิตโปรเซสเซอร์ที่ล้ำที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ให้หลายบริษัท เช่น แอปเปิ้ล และอินวิเดีย ซึ่งมีพื้นฐานการออกแบบมาจากบริษัทอาร์ม
ปัจจุบัน ทีเอสเอ็มซีผลิตชิป 3 นาโนเมตร และวางแผนเริ่มผลิตชิป 2 นาโนเมตรในปี 2568
- ปัจจัยหนุนอุตสาหกรรมชิป
ข้อมูลจาก Canalys ระบุว่า ตลาดสมาร์ตโฟนในไตรมาส 3 หดตัวเพียง 1% เท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและความต้องการสินค้าอัปเกรดฟื้นตัว ขณะที่ตลาดสมาร์ตโฟนก็เติบโตสองหลักในไตรมาส 3 อีกทั้งชิปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ก็เป็นที่ต้องการ เพราะความนิยมโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง ChatGPT และแชตบอตอื่น ๆ ของจีน
อย่างไรก็ตาม ซีซี เว่ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ทีเอสเอ็มซี บอกว่า ความต้องการเอไอ ไม่สามารถชดเชยความต้องการชิปเพื่อผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ได้เพียงพอ
ทั้งนี้ ทีเอสเอ็มซี คาดว่า รายได้ไตรมาส 4 อาจอยู่ระหว่าง 18,800-19,600 ล้านดอลลาร์
อ้างอิง:CNBC