‘ฟักทอง’ สัญลักษณ์ฮาโลวีน สร้างเศรษฐกิจ 29,500 ล้านบาท ! ในปี 2565
“ฟักทอง” ของตกแต่งที่เป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน สามารถสร้างเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล โดยในปี 2565 มีการจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับฟักทองมากถึง 820 ล้านดอลลาร์ หรือราว 29,500 ล้านบาท !
“ฟักทอง” ของตกแต่งที่เป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน หรือที่เรารู้จักในชื่อ แจ็กโอแลนเทิร์น (ตะเกียงฟักทอง) เป็นหนึ่งในพืชที่สร้างเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล
จากข้อมูลของนิก (NIQ) ธุรกิจวิจัยตลาดเผยว่า สินค้าที่เกี่ยวข้องกับฟักทอง ตั้งแต่เทียนฟักทอง ไปจนถึงเบเกิลอบเชยฟักทอง มียอดจำหน่ายเมื่อปีก่อนสูงถึง 820 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 29,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี ขณะที่ยอดจำหน่ายผลฟักทองสด มีมูลค่ามากกว่า 190 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6,800 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 14 ต.ค. ที่ผ่านมา
เป็นธรรมดาเมื่อมีเทศกาล ธุรกิจต่าง ๆ มักจัดโปรโมชันและจัดงานเฉลิมฉลองเพื่อกอบโกยรายได้ รวมถึงช่วงเทศกาลฮาโลวีนด้วย แต่มีอยู่ธุรกิจหนึ่งที่คนเมืองสหรัฐนิยมท่องเที่ยวช่วงนี้คือ "ฟาร์มฟักทอง"
สำนักข่าวดิอีโคโนมิสต์ เผยว่า พิพิธภัณฑ์ฟาร์มควีนส์เคาท์ตี เป็นหนึ่งในสวนเพียงไม่กี่แห่งในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐ ที่มีพื้นที่เลี้ยงผึ้ง มีสวนผลไม้ ทำปศุสัตว์ และในฤดูใบไม้ผลิจะจัดสวนฟักทองให้เข้าชม
นักท่องเที่ยว เช่น พ่อแม่มักพาลูกๆมาถ่ายรูป บางคนแต่งชุดกระโปรงทรงฟักทอง บางคนนั่งถ่ายรูปกับกองฟักทอง ขณะที่วัยรุ่นราว 20 ต้น ๆ ก็เข้ามาถ่ายรูปข้าง ๆ กองฟางแล้วโพสต์ภาพลงอินสตาแกรม
การรวมกลุ่มกันของคนใช้เทคโนโลยี และเกษตรกรรายย่อย อาจดูเป็นธรรมชาติเหมือนรูปภาพยุคใหม่ที่แต่งด้วยฟิลเตอร์วินเทจ แต่ความจริงแล้วคนสองกลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกันตั้งแต่อดีต
- ‘ฟักทอง’ เชื่อมคนกรุงสู่ชนบท
ในยุคศตวรรษ 1900 เป็นช่วงที่ผู้คนย้ายจากฟาร์มบ้านนอกไปเข้ากรุง ทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนสูญเสียความผูกพันกับธรรมชาติ จากนั้นฟักทอง ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของชนบทในอุคมคติคนกรุง
ขณะที่เมืองเล็ก ๆ หลายแห่งที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับฟักทอง ยังจัดงานและจัดการการแข่งขันเกี่ยวกับฟักทองหลายแห่งในช่วงเทศกาลฮาโลวีน
“ซินดี ออตต์” ผู้เขียน “Pumpkin: The Curious History of an American Icon” เผยว่า "สวนฟักทอง” เปรียบเหมือนเส้นทางที่ทำให้ผู้คนยังคงเข้าถึงชีวิตชนบทได้
“สิ่งที่สุดยอดคือ ความนิยมของพายฟักทอง และแจ็กโอแลนเทิร์นที่ช่วยสนับสนุนสวนฟักทอง ยังช่วยสนับสนุนครอบครัวเกษตรกรรายย่อยได้ด้วย"
ขณะที่ Libby’s บริษัทผลิตไส้สำหรับทำพายฟักทอง ก็ต้องพึ่งพาเกษตรกรรายย่อยหลายสิบรายเช่นกัน
- ‘ฟักทอง’ สร้างรายได้เกษตรกรสองเด้ง
นอกจากเกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายฟักทองแล้ว ยังมีรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงฮาโลวีนด้วย
ดิอีโคโนมิสต์ เผยว่า สวนฟักทองสร้างได้ไม่ยาก เกษตรกรไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่จำนวนมากเพื่อสร้างสวนท่องเที่ยวให้มีความคุ้มค่า เพราะพวกเขาสามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายแอปเปิ้ลไซเดอร์ และโดนัทให้กับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบฟักทอง รวมถึงแยมและผักต่าง ๆ
ฟาร์มควีนเคาท์ตีก็มีรายจากการท่องเที่ยวเช่นกัน โดยมีสวน “amazing maize maze” หรือเขาวงกตข้าวโพดมหัศจรรย์ให้เข้าเยี่ยมชม โดยเก็บค่าเข้า 16 ดอลลาร์ต่อคน (ราว 575 บาท) สำหรับเด็กเก็บค่าเข้า 12 ดอลลาร์ (ราว 430 บาท) และมีบริการนั่งรถขนฟาง โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6 ดอลลาร์ต่อคน (ราว 215 บาท)
“สตีฟ เรนเนอร์” อาจารย์ภาควิชาพืชสวน จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ เผยว่า “ฟักทองสามารถทำอะไรที่แตกต่างกันไปได้หลายอย่าง ไม่ว่าเกษตรจะมีกำไรหรือไม่มีกำไรจากการทำไร่ในปีนั้นก็ตาม”
อ้างอิง:The Economist
