อิสราเอลแจงไม่มีอำนาจครองกาซามาตั้งแต่ปี 2548
สถานทูตอิสราเอลออกแถลงการณ์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องประกาศสงครามกับกลุ่มฮามาส และตามกฎหมายระหว่างประเทศ อิสราเอลไม่มีอำนาจยึดครองฉนวนกาซามาตั้งแต่ พ.ศ.2548
เมื่อวันที่ 2 พ.ย.66 สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ ความสำคัญตอนหนึ่งว่า สามสัปดาห์ผ่านไป นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสเริ่มต้นขึ้น หลังการโจมตีอันโหดเหี้ยมของกลุ่มฮามาสในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ในการโจมตีครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,400 ราย บาดเจ็บ 5,500 ราย และประชาชนกว่า 240 รายที่ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนถูกนำตัวไปยังฉนวนกาซาเพื่อใช้เป็นตัวประกันและเป็นโล่มนุษย์ ความป่าเถื่อนโหดร้ายของการโจมตีครั้งนี้ทำให้อิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องประกาศสงครามกับกลุ่มฮามาส โดยมีวัตถุประสงค์ชัดเจนคือ
กวาดล้างองค์กรฮามาส ทำลายศักยภาพทางการทหารทั้งหมด และกำจัดระบอบการปกครองของกลุ่มฮามาสในกาซา
อิสราเอลมีความลังเลไม่แน่ใจเรื่องข้อปฏิบัติต่อประชาชนในฉนวนกาซา แต่สิ่งสำคัญที่พึงทราบก็คือ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ
อิสราเอลไม่มีอำนาจยึดครองฉนวนกาซานับตั้งแต่เมื่ออิสราเอลถอนตัวออกมาใน พ.ศ.2548
ดังนั้น อิสราเอลจึงไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมายในการตอบสนองความต้องการของประชาชนพลเรือนในฉนวนกาซา ตามที่ได้เป็นที่ประจักษ์แล้วก็คือ กลุ่มฮามาสมีอำนาจควบคุมดินแดนดังกล่าวอย่างเบ็ดเสร็จ
เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นางออร์นา ซากีฟ กล่าวว่า "อิสราเอลกำลังเผชิญกับสถานการณ์ท้าทาย เรากำลังทำสงครามกับองค์กรก่อการร้ายที่เลวร้ายที่สุด วัตถุประสงค์หลักของเราคือ การกำจัดกลุ่มฮามาส ในขณะเดียวกันก็ต้องดูแลความปลอดภัยของพลเรือน ในทางกลับกัน ฝ่ายตรงข้ามของเราใช้พลเรือนของตนเองเป็นโล่มนุษย์ ดิฉันใคร่ขอให้สื่อสารมวลชน และประชาชนทั่วไป รับข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ มีการกล่าวหาอิสราเอลทุกครั้งต่อการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนในฉนวนกาซา โดยไม่มีการพิจารณายุทธวิธีของฮามาสให้ถ่องแท้ นั่นก็เท่ากับยอมรับคำบอกเล่าของฮามาส และสนับสนุนฮามาสให้ใช้ยุทธวิธีเช่นนี้ต่อไป"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์