ฟิทช์หั่นเครดิต'อียิปต์'เหลือ B- ชี้มีความเสี่ยงด้านการเงิน-หนี้รัฐพุ่ง
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรตติ้งส์ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของอียิปต์ลงสู่อันดับ B- จากอันดับ B โดยระบุถึงความเสี่ยงด้านการเงินที่เพิ่มขึ้น และหนี้สินของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ฟิทช์ ยังได้ปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของอียิปต์เป็น "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ"
ฟิทช์ระบุว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของอียิปต์ในด้านหนี้สินต่างประเทศ, เสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค และหนี้สินรัฐบาลที่อยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว
การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญของอียิปต์ซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระบาดนั้น ได้ถูกบดบังจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นในปีที่แล้ว และการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก ขณะที่อียิปต์กู้ยืมเงินจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 4 เท่าสู่ระดับมากกว่า 1.60 แสนล้านดอลลาร์ในระยะ 7 ปีจนถึงปี 2565
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บรรดานักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า อียิปต์ได้ใช้เงินสดที่กู้ยืมมาไปกับโครงการต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้สร้างรายได้เป็นสกุลเงินต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วตามที่ต้องการ และอียิปต์ยังเผชิญกับปัญหาหนี้สินท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ซึ่งนำไปสู่การปรับลดค่าเงิน และทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในอียิปต์พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงแรงกดดันด้านต้นทุนอาหารหลังเทศกาลฉลองของชาวมุสลิม และการใช้จ่ายในช่วงฤดูร้อนที่พุ่งสูงขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอียิปต์รายงานว่าอัตราเงินเฟ้อในเขตเมืองของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนมิถุนายนเป็น 35.7% ต่อปี จาก 32.7% ต่อปีในเดือนก่อนหน้า นับเป็นข้อมูลที่เร็วที่สุดในเดือนธ.ค. 2552
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นได้รับแรงหนุนจากต้นทุนอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้น 65.9% ซึ่งเป็นองค์ประกอบเดียวที่ใหญ่ที่สุดของอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงผลกระทบทางสถิติของฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว เมื่อเทียบเป็นรายเดือน อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.1% จาก 2.7% ในเดือนพ.ค.