‘ลี เซียนหลุง’วางแผนลงจากอำนาจปี 67 ก่อนเลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรีลี เซียนหลุงของสิงคโปร์เผย เตรียมส่งมอบอำนาจให้รองนายกฯ ลอว์เรนซ์ หว่อง ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ส่งสัญญาอาจเปลี่ยนผ่านเร็วสุดปี 2567
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน นายกรัฐมนตรีลี เซียนหลุง วัย 71 ปีของสิงคโปร์ กล่าวในการประชุมใหญ่พรรคกิจประชาชน (PAP)
“ผมเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมในตัวลอว์เรนซ์และทีมของเขา จึงไม่มีเหตุผลให้ต้องชะลอการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ด้วยเหตุนี้ผมตั้งใจส่งมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า”
(รองนายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง)
ทั้งนี้ ลีเป็นนายกรัฐมนตรีมาเกือบสองทศวรรษ และพรรค PAP เตรียมการเปล่ี่ยนผ่านมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ความตั้งใจของลีที่จะถ่ายโอนอำนาจก่อนอายุ 70 ปี สะดุดลงเพราะโควิด-19 ระบาด และนายเฮง สวีเกียต ทายาททางการเมืองในขณะนั้นตัดสินใจลาออกแบบไม่มีใครได้ตั้งตัวในเดือน เม.ย.2564
รองนายกฯหว่อง วัย 50 ปี ขึ้นสู่ตำแหน่งในเดือน เม.ย.2563 เพื่อนำทีมผู้นำพรรครุ่นที่ 4 โดยสิงคโปร์จะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไปในเดือน พ.ย.2568
พรรค PAP ที่บริหารประเทศมาตั้งแต่สิงคโปร์ได้เอกราชในปี 2508 ปีนี้เสื่อมถอยหลายเรื่อง ตั้งแต่สาธารณชนไม่พอใจค่าครองชีพสูงไปจนถึงเรื่องฉาวทางการเมือง อาทิ รัฐมนตรีเกี่ยวข้องทุจริต ซึ่งลีออกตัวว่ารัฐบาลของตนกำลังจัดการแก้ปัญหาท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์
วันนี้ลีย้ำอีกครั้งว่า ความมุ่งมั่นของพรรคเรื่องความซื่อสัตย์ปลอดทุจริต “ไม่สามารถลดทอนได้เด็ดขาด” และว่านายหว่องและทีมงานดึงดูดผู้คนจำนวนมากเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้พรรคอย่างต่อเนื่อง และกำหนดวาระ “สำคัญ” ของชาติไว้เรียบร้อยแล้ว
“พวกเขามีความรับผิดชอบมากขึ้น และกำลังเตรียมการเป็นอย่างดีเพื่อนำพาพรรค ถ้าทุกอย่างไปได้ดี ผมจะส่งมอบอำนาจภายในวันเกิด 70 ปีของพรรคในปีหน้า” ลีกล่าว ซึ่งพรรค PAP เกิดขึ้นในเดือน พ.ย.2498
เมื่อส่งมอบอำนาจแล้วลีจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับนายกฯคนใหม่ ซึ่งนายกฯ สองคนก่อนของสิงคโปร์เป็น “รัฐมนตรีอาวุโส” ในครม. หลายปีหลังพ้นตำแหน่ง
“ผมไปอยู่ที่ไหนก็ได้ที่เขาคิดว่าผมมีประโยชน์ ผมจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือเขาและทีมงานต่อสู้และเอาชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า เติมเต็มความรับผิดชอบของพวกเขา” ลียืนยัน
สำหรับนายหว่องเมื่อเร็วๆ นี้ได้ร่างวิสัยทัศน์สำหรับสิงคโปร์ที่ถูกมองว่าเป็นหนทางปรับปรุงสภาพสังคม เรียกว่าForward Singapore (เดินหน้าสิงคโปร์) มีทั้งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านรายได้และความมั่งคั่ง เสริมตาข่ายความปลอดภัยลดความเครียดในสังคมต่อกลุ่มที่กำลังถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ในการเลือกตั้งปี 2563 พรรค PAP ทำผลงานได้ตกต่ำสุดแม้ได้ที่นั่ง 89% เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านผลักดันมาตรการช่วยชาวสิงคโปร์รายได้น้อยและว่าจ้างแรงงานท้องถิ่นแทนชาวต่างชาติ
นายบิลวีร์ ซิงห์ รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ระบุ “การเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ใช่เรื่องลอว์เรนซ์ หว่อง หรือ ลี เซียนหลุง เป็นเรื่องที่ PAP ต้องไม่ใช่แค่ชนะเลือกตั้งแต่ต้องชนะท่วมท้นเด็ดขาด”
ด้านนายหว่อง แสดงสุนทรพจน์ในเวทีเดียวกัน ยอมรับว่าพรรคและประเทศกำลังเผชิญความท้าทายใหญ่ เขาย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องทำให้การเมืองสิงคโปร์สะอาด
“เรามีโรดแมปชัดเจนถึงสิ่งที่เราต้องการจะทำและวิธีที่รัฐบาล PAP สามารถทำงานกับประชาชนเพื่อช่วยให้สิงคโปร์ประสบความสำเร็จ ผมพร้อมสำหรับภารกิจครั้งหน้า” รองนายกฯ สิงคโปร์ให้คำมั่น