'ฮอนด้า-นิสสัน' รับอานิสงส์เงินเยนอ่อนค่า ปรับขึ้นคาดการณ์กำไร 20%
เงินเยนอ่อนค่า-ยอดขายตลาดสหรัฐดีขึ้น ดันสองค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น 'ฮอนด้า' และ 'นิสสัน' ประกาศขึ้นคาดการณ์กำไรปีนี้
บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ ค่ายรถใหญ่อันดับ 2 ในญี่ปุ่น ประกาศปรับขึ้นคาดการณ์กำไรทั้งปีนี้อีก 20% เป็น 1.2 ล้านล้านเยน เนื่องจากได้ปัจจัยบวกเรื่องค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง และยอดขายที่เติบโตดีขึ้นในตลาดใหญ่อย่างสหรัฐ ซึ่งช่วยชดเชยยอดขายในตลาดจีนที่ลดลงได้
ทั้งนี้ ฮอนด้ามีกำไรจากการดำเนินการไตรมาสเดือน ก.ค. - ก.ย. เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 3.021 แสนล้านเยน แต่ก็ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทำได้ประมาณ 3.453 แสนล้านเยน
ขณะเดียวกัน ฮอนด้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในแผนการร่วมมือกับค่ายเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และบริษัทพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ครูซ เพื่อพัฒนาบริการแท็กซี่ไร้คนขับในญี่ปุ่น ภายในปี 2026 แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเพิ่งมีรายงานปัญหาด้านความปลอดภัยในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ จนทำให้ครูซต้องประกาศยุติการดำเนินงานทั้งหมดในสหรัฐลงชั่วคราวก็ตาม
ทางด้านบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ประกาศปรับขึ้นคาดการณ์กำไรทั้งปีนี้เกือบ 13% เป็น 6.2 แสนล้านเยน เนื่องจากปัจจัยบวกเรื่องค่าเงินเยนอ่อนค่า และยอดขายในตลาดโลกที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ไม่รวมตลาดจีน
ทั้งนี้ นิสสันรายงานกำไรจากการดำเนินงานไตรมาสเดือน ก.ค.-ก.ย. เพิ่มขึ้น 127% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 2.081 แสนล้านเยน ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ประมาณ 1.559 แสนล้านยน
ขณะที่ข้อมูลรอบครึ่งปีระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ย. ที่ผ่านมา พบว่า นิสสันมียอดขายรถยนต์ทั่วโลกขยายตัวขึ้น 23.4% อยู่ที่กว่า 1.2 ล้านคัน แต่ยอดขายในจีนลดลงถึง 34% เมื่อเทียบปีที่แล้ว อยู่ที่ 3.59 แสนคัน
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ในจีนอีก 4 รุ่น ภายในปี 2026 ในจำนวนนี้รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าตัวใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าด้วย