มูดีส์หั่นแนวโน้มเครดิตสหรัฐ หวั่น 'การคลังเสี่ยง-การเมืองแบ่งขั้ว'
สถานะการคลังเสี่ยงถดถอย-การเมืองแบ่งขั้วหนัก ฉุดบริษัทจัดอันดับเครดิตชื่อดังมูดีส์ หั่นแนวโน้มอันดับเครดิตสหรัฐสู่ 'เชิงลบ'
บริษัทจัดอันดับเครดิต มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศหั่นแนวโน้มอันดับเครดิตของสหรัฐจากเดิมที่ระดับมีเสถียรภาพ ลงสู่แนวโน้ม "เชิงลบ" เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 ส่งผลให้อันดับเครดิตของสหรัฐมีความเสี่ยงจะถูกปรับลดตามมา หลังจากที่อีก 2 บริษัทจัดอันดับเครดิตรายใหญ่ คือ ฟิทช์ เรตติ้งส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรตติ้งส์ ต่างปรับลดอันดับเครดิตสหรัฐลงไปก่อนแล้วในปีนี้
มูดีส์ให้เหตุผลของการลดแนวโน้มอันดับเครดิตสหรัฐว่า เป็นเพราะความเสี่ยงเรื่องความเข้มแข็งทางการคลังของสหรัฐเป็นหลัก
"ภายใต้บริบทของอัตราดอกเบี้ยสูง และไม่มีมาตรการทางการคลังที่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะลดการใช้จ่ายของรัฐบาล หรือเพิ่มรายได้ มูดีส์จึงคาดการณ์ว่าการขาดดุลการคลังของสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก และส่งผลอย่างยิ่งให้ความสามารถในการชำระหนี้อ่อนแอลง" แถลงการณ์ของมูดีส์ระบุ
นอกจากปัจจัยความเสี่ยงทางการคลังแล้ว มูดีส์ยังระบุด้วยว่าเป็นเพราะปัญหาการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างหนักในสภาคองเกรส ซึ่งมีความเสี่ยงที่รัฐบาลอาจจะไม่สามารถบรรลุฉันทามติเรื่องแผนการคลังเพื่อแก้ปัญหาความสามารถในการชำระหนี้ที่อ่อนแอลงได้
ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสสหรัฐสามารถตกลงร่างงบประมาณชั่วคราวระยะสั้นได้ ซึ่งช่วยให้สหรัฐสามารถรอดพ้นจากภาวะชัตดาวน์ทางการคลัง แต่ก็เป็นเพียงการซื้อเวลาไปจนถึงวันที่ 17 พ.ย. เท่านั้น ซึ่งสภาคองเกรสต้องมาตกลงกันอีกครั้งในเรื่องของร่างงบประมาณปีหน้า และมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะชัตดาวน์ขึ้นอีก ท่ามกลางการเมืองสหรัฐที่ร้อนระอุในขณะที่กำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีหน้า
อย่างไรก็ตาม มูดีส์ยังคงอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวของสหรัฐเอาไว้ในระดับ AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดต่อไป และเป็น 1 ใน 3 บริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่เพียงแห่งเดียวแล้ว หลังจากที่ฟิทช์และเอสแอนด์พีประกาศหั่นเครดิตของสหรัฐลงเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา