สหรัฐส่งรมว.ต่างประเทศเจรจาประสานทุกฝ่ายหวังบรรเทาวิกฤตในกาซา

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ เดินทางเยือนตะวันออกกลางเมื่อวันพฤหัสบดี (4 ม.ค.) ซึ่งเป็นการเยือนรอบที่ 4 นับจากอิสราเอลเปิดฉากกวาดล้างฮามาส ท่ามกลางความกังวลมากขึ้นว่า สงครามกาซาอาจลุกลามหลังเกิดระเบิด 2 ครั้งซ้อนในอิหร่านที่มีผู้เสียชีวิตเกือบร้อยรายเมื่อวันพุธ (3 ม.ค.) และรัฐบาลเตหะรานกล่าวหาว่า เป็นฝีมือสหรัฐและอิสราเอล นอกจากนั้น ในวันอังคาร (2 ม.ค.) ยังมีการลอบสังหารผู้นำฮามาสในเลบานอนด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ เดินทางกลับไปตะวันออกกลางอีกครั้งในช่วงที่มีแรงกดดันจากนานาประเทศให้อิสราเอลเพิ่มความพยายามป้องกันการเสียชีวิตของพลเรือนในปาเลสไตน์

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐว่า นายเอมอส โฮชสไตน์ ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ร่วมเดินทางไปอิสราเอลด้วยเพื่อหวังช่วงลดความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและเฮซบอลลาห์ ขณะที่ นายฮาคาน ฟิดาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี บอกว่า นายบลิงเคนจะร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตุรกีในวันเสาร์ (6ม.ค.)

ทั้งนี้ สหรัฐมีความกังวลอย่างมากว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาสจะขยายวงไปสู่พื้นที่อื่นๆ หลังมีการสังหาร นายซาเลห์ อัล-อารูรี สมาชิกอาวุโสของกลุ่มฮามาสเมื่อวันอังคาร ในเลบานอน

ขณะที่กองกำลังรักษาการขององค์การสหประชาชาติในเลบานอน ก็แสดงความกังวลว่า สงครามอิสราเอล-ฮามาส อาจยกระดับและขยายวง พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น

เมื่อวันพุธเกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนใกล้กับสุสานที่เป็นสถานที่จัดพิธีรำลึกครบรอบ 4 ปีการเสียชีวิตของพลเอกกาเซม โซเลมานี แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ที่ถูกโจมตีด้วยโดรนของสหรัฐ 

ด้านอยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวหาว่าปีศาจและศัตรูของอิหร่าน ซึ่งก็คือสหรัฐและอิสราเอล อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดครั้งนี้ ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 95 คน และบาดเจ็บกว่า 200 คน พร้อมประกาศตอบโต้อย่างรุนแรง