สื่อดังแฉ 'อีลอน มัสก์' เล่นยาหลายขนาน ต้นเหตุหลุดออกหน้าสื่อบ่อย
สื่อดัง WSJ เผยเหล่ากรรมการและผู้บริหาร 'เทสลา' และ 'สเปซเอ็กซ์' กำลังกลัวว่าการเล่นยาหลายขนานของ 'อีลอน มัสก์' อาจส่งผลกระทบต่ออาณาจักรธุรกิจแสนล้านในเครือ
Key Points
- WSJ รายงานว่าอีลอน มัสก์ เคยเล่นยาหลายขนาน เช่น ยาอี ยาเค เห็ดเมา โคเคน และแอลเอสดี
- การใช้ยาของอีลอนอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวมีพฤติกรรมห้าวในที่สาธารณะหลายครั้ง
- ทีมผู้บริหารของ 'เทสลา' และ 'สเปซเอ็กซ์' ต่างเป็นกังวลว่าจะกระทบ 6 อาณาจักรธุรกิจของมัสก์
- ทนายของมัสก์ระบุว่ายาหลายตัวเป็นการใช้ภายใต้การแนะนำของแพทย์อย่างถูกต้อง และปฎิเสธหลายเรื่องในบทความนี้ว่าไม่เป็นความจริง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
หนังสือพิมพ์ธุรกิจชื่อดังอย่างวอลสตรีตเจอร์นัล (WSJ) รายงานอ้างแหล่งข่าวหลายรายที่ใกล้ชิดกับ 'อีลอน มัสก์' ผู้ก่อตั้งเทสลาและสเปซเอ็กซ์ ว่ากรรมการบริษัทและผู้บริหารหลายรายกำลังกลัวว่าการใช้ยาหลายขนานของมัสก์อาจส่งผลกระทบต่ออาณาจักรธุรกิจในเครือ
รายงานระบุว่าในช่วง 2-3 ปีมานี้ กรรมการและผู้บริหารบางรายในบริษัทรวมไปถึงคนใกล้ชิดของมัสก์ เริ่มกังวลมากขึ้นว่า มุมมองที่ขวางโลก คำพูดที่ไม่ได้กลั่นกรอง และพฤติกรรมปลุกปั่นของมัสก์ซึ่งเริ่มพบเห็นได้บ่อยครั้ง อาจไม่ได้เป็นเพียงแค่ผลจากความเครียด การนอนไม่หลับ ปัญหาสุขภาพจิต หรือความสร้างสรรค์ในแบบฉบับของมัสก์ แต่ยังอาจมาจากผลพวงของการใช้สารเสพติดหลายขนานด้วย
และประเด็นนี้เองที่หลายคนกังวลว่าจะกระทบต่ออาณาจักร 6 ธุรกิจมูลค่านับแสนล้านดอลลาร์ของมัสก์ ตั้งแต่ เทสลา, สเปซเอ็กซ์, ทวิตเตอร์, นิวรัลลิงก์, เดอะบอริ่ง คอมพานี, ไปจนถึงเอ็กซ์เอไอ
- สื่ออ้างเล่นยาหลายขนานถึงปัจจุบัน
WSJ อ้างแหล่งข่าวซึ่งอ้างว่าเห็นมัสก์ใช้ยารวมถึงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า มัสก์เคยใช้ยาหลายขนานทั้ง แอลเอสดี โคเคน ยาอี และเห็ดขี้ควาย โดยส่วนใหญ่มักใช้ระหว่างร่วมงานปาร์ตี้ส่วนตัวในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมงานได้จะต้องเซ็นข้อตกลงไม่เปิดเผยความลับหรืออาจต้องให้ยึดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ก่อนเข้างาน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการเผยแพร่ภาพหลุดในงานปาร์ตี้ออกไป
มัสก์เคยเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาแล้วเมื่อหลายปีก่อนจากการสูบกัญชาระหว่างออกอากาศรายงานวิทยุแห่งหนึ่งในสหรัฐ และเจ้าตัวก็เคยเปิดเผยว่าเคยใช้กลุ่มยาหลอนประสาทไซคีเดลิค (psychedelic) เช่น เคตามีน หรือยาเค ภายใต้การแนะนำจากแพทย์เพื่อการผ่อนคลาย
ทั้งนี้สารเสพติดหลายตัว เช่น ยาเคและเห็ดขี้ควาย เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในบางรัฐของสหรัฐ โดยถูกใช้เพื่อผ่อนคลายความเครียดและเพื่อบำบัดอาการทางจิตเวช เช่น ซึมเศร้า
รายงานระบุว่าในปี 2018 มัสก์เคยใช้สารแอลเอสดีในงานปาร์ตี้ที่เขาจัดขึ้นเองในลอสแอนเจลิส ส่วนในปีถัดมาก็ได้เข้าร่วมปาร์ตี้เห็ดมหัศจรรย์ที่เม็กซิโก และในปี 2021 ระหว่างที่ไปร่วมงานศิลปะอาร์ตบาเซิลที่ไมอามี มัสก์ก็ได้ใช้ยาเคเพื่อการผ่อนคลายกับ "คิมบัล มัสก์" ซึ่งเป็นน้องชายที่งานปาร์ตี้แห่งหนึ่งด้วย นอกจากนี้ข่าวยังอ้างว่า สตีฟ เจอร์เวตสัน อดีตกรรมการบริษัทเทสลาซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหารในสเปซเอ็กซ์ เป็นเพื่อนที่ร่วมเสพยากับมัสก์ด้วย
แหล่งข่าวใกล้ชิดรายหนึ่งเปิดเผยว่า ปัจจุบันมัสก์ในวัย 52 ปียังคงใช้ยาอยู่ โดยเฉพาะยาเค ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนเป็นกังวลถึงสุขภาพของมัสก์ และกังวลถึงความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่ทำอยู่ เพราะการใช้ยาเสพติดอย่างผิดกฎหมาย (นอกเหนือจากกรณีการดูแลของแพทย์) อาจเป็นการละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐ และส่งผลกระทบต่อสัญญาหลายพันล้านดอลลาร์ระหว่างรัฐบาลกับบริษัทสเปซเอ็กซ์
- หวั่น 'สเปซเอ็กซ์' กระทบสุดเพราะดีลงานรัฐเยอะ
ตัวของมัสก์เองยังถือเป็นหัวใจหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมูลค่าบริษัทของเขา และเรื่องนี้อาจสร้างความเสี่ยงมากถึงราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ ต่อสินทรัพย์ที่นักลงทุนถือครอง ตำแหน่งงานหลายหมื่นอัตรา รวมถึงโปรเจกต์สำคัญในโครงการอวกาศของสหรัฐด้วย
ปัจจุบัน สเปซเอ็กซ์เป็นโครงการอวกาศของเอกชนสหรัฐเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (NASA) ให้ส่งนักบินอวกาศของนาซาเดินทางไป-กลับจากสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ได้ ในขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้เพิ่มการซื้อกระสวยอวกาศจากสเปซเอ็กซ์มากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และบริษัทเองก็ยังมองหาลู่ทางการเซ็นสัญญาธุรกิจล็อตใหญ่กับบรรดาหน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งชาติรายอื่นๆ ด้วย
แหล่งข่าวใกล้ชิดรายหนึ่งระบุว่า ลินดา จอห์นสัน ไรซ์ คืออดีตกรรมการบริษัทเทสลาที่กังวลต่อเรื่องการใช้ยาและไม่พอใจกับพฤติกรรมขึ้นๆ ลงๆ ของมัสก์ ซึ่งทำให้เจ้าตัวไม่ลงสมัครเป็นกรรมการบริษัทต่อในปี 2019
อย่างไรก็ตาม มัสก์ยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้ มีเพียงอเล็กซ์ สไปโร ทนายความของมัสก์ที่ออกมาตอบโต้บทความนี้
- ทนายโต้หลายเรื่องไม่จริง ยันมัสก์รอดการตรวจสารเสพติดทุกครั้ง
สไปโร ทนายความของมัสก์และยังเป็นตัวแทนทางกฎหมายของเทสลาระบุว่า มัสก์เข้ารับการตรวจหาสารเสพติดเป็นประจำทั้งโดยสม่ำเสมอและโดยการสุ่มตรวจที่บริษัทสเปซเอ็กซ์ และไม่เคยมีสักครั้งที่ไม่ผ่านการทดสอบ นอกจากนี้ยังระบุว่ามีเรื่องที่ไม่เป็นความจริงอยู่หลายจุดในบทความนี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
WSJ รายงานว่าบรรดาคนใกล้ชิดล้วนเคยชินกับพฤติกรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของมัสก์ แต่ผู้บริหารบางรายของสเปซเอ็กซ์ที่ทำงานด้วยกันมานานเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเจ้านายจากงานอีเวนต์ครั้งหนึ่งของบริษัทที่สำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย เมื่อปลายปี 2017
โดยในครั้งนั้นพนักงานหลายร้อยคนรอมัสก์ที่มางานสายไปเกือบชั่วโมง และเมื่อถึงเวลาขึ้นกล่าวถึงกระสวยอวกาศรุ่นล่าสุด มัสก์พูดแทบจะไม่รู้เรื่อง โดยมีอาการลิ้นแข็งพูดไม่ชัดไปราว 15 นาที และพูดถึงยานใหม่ที่มีชื่อว่า Big Falcon Rocket ว่าเป็น Big F—ing Rocket จนกระทั่ง กวินน์ ช็อตเวลล์ ประธานของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ต้องเข้ามาเปลี่ยนตัวขึ้นพูดแทน
เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ก่อตั้งสเปซเอ็กซ์ แต่หลังจากนั้นผู้บริหารบางรายได้มีการพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวถึงความกังวลเรื่องการใช้ยาของมัสก์ ขณะที่ทนายของมัสก์กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริง ซึ่งมีหลายคนที่อยู่ในงานยืนยันได้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมหรือระบุเฉพาะเจาะจงว่าจุดใดที่ไม่เป็นความจริง
อีกเหตุการณ์ที่ทำให้คนใกล้ตัวกังวลก็คือ การที่มัสก์สูบกัญชาระหว่างออกรายการ "โจ โรแกน โชว์" ในปี 2018 ซึ่งในครั้งนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างชัดเจน เพราะถึงกับทำให้มีปัญหากับองค์การนาซา และทำให้พนักงานของสเปซเอ็กซ์ต้องถูกสุ่มตรวจสารเสพติดหลังจากนั้นมา
- บอร์ดเป็นห่วงกระทบอาณาจักรธุรกิจ
นอกจากจะถือเป็นการฝ่าฝืนกฎเรื่องสัญญาจ้างกับรัฐบาลแล้ว การใช้สารเสพติดอย่างผิดกฎหมายยังถือเป็นการละเมิดธรรมาภิบาลบริษัทของทั้งสเปซเอ็กซ์และเทสลา และทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อบทบาทของคณะกรรมการบริหารของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เพราะบอร์ดยังมีหน้าที่ต่อผู้ถือหุ้นในแง่การกำกับดูแลการดำเนินงานของบริษัทให้มีธรรมาภิบาลด้วย
รายงานระบุว่า บอร์ดบางรายเคยพูดคุยเรื่องความกังวลต่อการใช้ยาของมัสก์มาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยคุยกันอย่างเป็นทางการจนระบุในวาระการประชุมหรือรายงานการประชุมของบริษัท ในขณะที่บอร์ดบางราย เช่น โรบิน เดนโฮล์ม ประธานกรรมการของเทสลาคนปัจจุบัน เคยถึงขั้นไปคุยกับคิมบัล มัสก์ ที่เป็นน้องชายและเป็นบอร์ดของบริษัทด้วย เพื่อขอให้ช่วยดูพฤติกรรมของพี่ชาย แต่ไม่มีการพูดถึงคำว่า "ยา" แต่อย่างใด
ขณะที่บอร์ดและผู้ใกล้ชิดบางคนแสดงความกังวลถึงกรณีที่มัสก์เคยทวีตเมื่อปี 2018 ว่าจะเอาบริษัทเทสลาออกจากการเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหุ้น ในครั้งนั้น คิมบัลเป็นตัวแทนของบอร์ดไปคุยกับมัสก์ในเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงและทำให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ต้องตั้งคณะสอบสวนว่ามัสก์มีเจตนาทำให้เข้าใจผิดหรือปั่นหุ้นหรือไม่ และสุดท้าย มัสก์ตกลงที่จะก้าวลงจากตำแหน่งประธานกรรมการเทสลาในที่สุด
ที่มา: WSJ