ทูตอิสราเอลนำทัพ‘ตุ๊กตุ๊ก’ ซอฟต์พาวเวอร์ไทย รณรงค์ปล่อยตัวประกันทั้งหมด l Leaders' Move
วันอาทิตยที่ 14 ม.ค. นี้จะครบ 100 วัน กลุ่มฮามาสจับตัวประกันราว 250 คน จากอิสราเอลเข้าไปยังกาซา ที่ขณะนี้ยังเหลือตัวประกันอีกกว่า 130 คน รวมถึงคนไทย 8 คน ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยไม่อยู่เฉย จัดกิจกรรมรณรงค์ไม่ให้โลกลืมพวกเขา
ขบวนรถตุ๊กตุ๊กติดภาพใบหน้าตัวประกันพร้อมข้อความเรียกร้องให้ปล่อยตัวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จำนวน 100 คัน สัญจรไปตามถนนสายหลักในกรุงเทพฯ รวมถึงบริเวณไอคอนสยาม สุขุมวิท อโศก และถนนข้าวสาร เปิดขบวนที่หน้าอาคารโอเชียนทาวเวอร์ 2 ถนนอโศกโดยทูตซากิฟมานำทัพเอง พร้อมขบวนผู้สื่อข่าวนั่งรถตุ๊กตุ๊ก 10 คันจากถนนอโศก สู่ถนนเพชรบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนนานา ก่อนตัดซอยกลับมายังอาคารโอเชียนทาวเวอร์ 2 อีกครั้ง เรียกความสนใจจากผู้ใช้รถใช้ถนนมากพอสมควร 
“100 วันแล้วนะคะที่ตัวประกันถูกฮามาสจับตัวไปอยู่ที่ไหนสักแห่งในฉนวนกาซา ดิฉันคิดว่าสำคัญมากกับเราทุกคนที่จะไม่ลืมว่า ยังมีตัวประกันอีก 135 คน ในจำนวนนี้ 8 คนเป็นคนไทย 17 คนเป็นผู้หญิง และเป็นเด็กเล็กสองคน คนหนึ่งอยู่ในวัยเตาะแตะ อีกคนเป็นทารก และเยาวชนคนหนุ่มสาวอีก 10 คน" ทูตอิสราเอลกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนเริ่มขบวน ทั้งยังเล่าถึงความยากลำบากของเหล่าตัวประกันเท่าที่ได้ยินจากคนที่ได้รับการปล่อยตัวมา บางวันพวกเขาได้รับประทานแค่ขนมปังแผ่นเดียว ไม่มียา ไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ องค์กรกาชาดสากลไม่ได้รับอนุญาตให้พบบรรดาตัวประกัน ทั้งยังไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ในที่คุมขังหรือการรักษาพยาบาล ทราบเพียงว่า “23 คนถูกสังหาร ศพยังอยู่กับฮามาส” 
ทูตยังกล่าวถึงรายงานข่าวจากซีเอ็นเอ็นถึงอุโมงค์ของฮามาสในข่านยูนิสทางตอนใต้ของกาซา ที่ฮามาสใช้เป็นสถานที่คุมขังตัวประกัน บางคนถูกขังในกรงเหมือนสัตว์ ตัวประกันหญิงถูกข่มขืน
“โลกปล่อยให้พวกเขาอยู่ถึง 100 วันได้อย่างไร 100 วันที่ถูกคุมขังโดยปีศาจ เราจึงขอเรียกร้องต่อโลก เรียกร้องกับทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยบอกกับฮามาสให้ปล่อยตัวประกันเดี๋ยวนี้ พาพวกเขากลับบ้านเดี๋ยวนี้ ไม่มีเวลาอีกแล้ว โมเมนท์นี้พวกเขาเป็นตัวประกัน โมเมนท์ต่อไปอาจเสียชีวิตก็ได้” ทูตกล่าวอย่างสะเทือนใจ 
จากเหตุผลการจัดกิจกรรมที่ทูตกล่าวมาชวนให้เห็นเจตนาดี แต่ในมุมกลับอาจมองได้ว่าการทำกิจกรรมของสถานทูตอิสราเอลวันนี้จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลไทย หรือส่งผลกระทบต่อโอกาสการได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วของตัวประกันชาวไทย ประเด็นนี้ทูตซากิฟมีคำอธิบาย
"ดิฉันคิดว่า เราไม่มีคู่มือบอกว่าต้องทำยังไง เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้แต่กับเราก็เพิ่งเคยเจอครั้งแรก เราจึงต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้โลกไม่ลืมตัวประกันเหล่านั้น เรื่องเกิดมา 100 วันแล้ว มีอะไรต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในโลกจนหลายคนหลงลืมไป แต่เราลืมไม่ได้ เราอยากเตือนใจทุกคน พาพวกเขากลับบ้าน กลับมาอยู่กับครอบครัว ไม่ให้ใครถูกฮามาสฆ่า ตอนไปจากอิสราเอลพวกเขามีชีวิต แต่ถูกฆ่าระหว่างถูกคุมขัง ตอบคำถามคุณอย่างจริงใจเลยนะคะ เราไม่รู้ว่าควรทำยังไง เราพยายามทำทุกอย่าง และรู้ดีว่ารัฐบาลไทยก็พยายามทำทุกทางที่ทำได้เช่นกัน" ทูตกล่าวและว่า นอกเหนือจากในประเทศไทยแล้ว สถานทูตอิสราเอลในประเทศอื่นๆ ก็มีกิจกรรมรณรงค์เช่นนี้ แต่รูปแบบแตกต่างกันไป เช่น รณรงค์ด้วยการขี่จักรยาน
แล้วทำไมคราวนี้ถึงต้องใช้ตุ๊กตุ๊ก
“ตุ๊กตุ๊กเป็นอะไรที่ไทยมากๆ ค่ะ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิสราเอลมีมานานหลายปี แต่ในความขัดแย้งนี้ทั้งคนไทยและคนอิสราเอลถูกจับเป็นตัวประกันในกาซาด้วยกัน โดยปกติตุ๊กตุ๊กใช้เป็นพื้นที่โฆษณาอยู่แล้ว โอกาสนี้สถานทูตอิสราเอลจึงเลือกใช้ตุ๊กตุ๊กที่ผู้คนพบเห็นได้ทั่วไปสื่อสารข้อความรณรงค์ไปถึงโลกและรัฐบาลของทุกประเทศช่วยอิสราเอลให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวทุกคน" ทูตอิสราเอลกล่าวทิ้งท้าย
สถานะตัวประกันไทย 8 คน
สำหรับความคืบหน้าเรื่องตัวประกันไทย ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 9 ม.ค. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือตัวประกันคนไทยที่ถูกจับตัว 8 คนสุดท้ายว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่า ตัวประกันถูกคุมตัวไว้อยู่ที่ใด แต่ทางการไทยได้มีการติดต่อกับเครือข่ายของกลุ่มฮามาสและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำลังใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการให้ความช่วยเหลือ แต่ทางการอิสราเอล เปิดปฏิบัติการทางทหารต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มฮามาสกังวลว่า หากปล่อยตัวประกันออกมาแล้วจะไม่ปลอดภัย จึงยังไม่มีมีการปล่อยตัวประกัน
