ไต้หวันเชื่อจีนเพิ่มแรงกดดันด้านเศรษฐกิจ หลังเลือกตั้งเสร็จ
ไต้หวันเชื่อว่าจีนจะไม่ดำเนินการซ้อมรบครั้งใหญ่รอบเกาะไต้หวันในทันทีที่การเลือกตั้งเสร็จสิ้นลง แต่คาดว่าจีนจะเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจและใช้มาตรการบีบบังคับอื่น ๆ ก่อนที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนพ.ค.
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง 2 รายเปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงไทเปเมื่อวันพฤหัสบดี (11 ม.ค.) ว่า สภาพอากาศในฤดูหนาวคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้กองทัพจีนอาจไม่ดำเนินการซ้อมรบขนาดใหญ่ในช่องแคบไต้หวันในขณะนี้
เจ้าหน้าที่กล่าวโดยประเมินจากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า กิจกรรมทางทหารของจีนอาจเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. เนื่องจากสภาพอากาศจะดีขึ้น และเป็นช่วงก่อนที่ประธานาธิบดีคนใหม่จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ คาดว่าจีนจะเพิ่มการบีบบังคับทางเศรษฐกิจและกลยุทธ์การกดดันอื่น ๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่ว่าผู้ที่ชนะการเลือกตั้งจะเป็นใครก็ตาม โดยความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นให้ความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองของไต้หวันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
จุดประสงค์ของจีนคือการสั่นคลอนประธานาธิบดีคนใหม่ด้วยการสร้างสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมือง, โดดเดี่ยวไต้หวัน รวมถึงกดดันให้การกล่าวสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของไต้หวันในวันที่ 20 พ.ค. มีคำพูดหรือจุดยืนที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของจีน
ทั้งนี้ มีกระแสความกังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาของจีนที่จะมีต่อผลการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้ชนะการเลือกตั้งคือนายไล่ ชิงเต๋อ จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลาเกือบ 8 ปีที่นางไช่ อิงเหวิน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันนั้น จีนได้ปฏิเสธการเจรจาระดับสูงกับนางไช่มาโดยตลอด เนื่องด้วยนางไช่ปฏิเสธที่จะยอมรับจุดยืนของจีนที่มองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน