นักวิเคราะห์คาด เศรษฐกิจจีนชะลอตัว 4.6% ในปีนี้ และดิ่งสู่ 4.5% ในปี 68
นักเศรษฐศาสตร์คาด เศรษฐกิจจีนปีนี้ชะลอตัวสู่ระดับ 4.6% และอาจดิ่งลงไปอีกสู่ระดับ 4.5% ในปี 2568 กดดันผู้กำหนดนโยบายท่ามกลางภาวะเงินฝืด และภาคอสังหาฯ จีนยังคงตกต่ำ
ผลสำรวจจากรอยเตอร์ส คาดว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.6% ในปี 2567 นี้ และอาจชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.5% ในปี 2568 สร้างความกดดันต่อผู้กำหนดนโยบายในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ท่ามกลางความกดดันจากภาวะเงินฝืด และภาคอสังหาริมทรัพย์จีนตกต่ำ
จากการคาดการณ์เฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ 58 ที่รอยเตอร์สำรวจ ระบุ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของจีน อาจเติบโต 5.2% ในปี 2566 ตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าในปีก่อนหน้าเพราะการล็อกดาวน์โควิด
แต่จีนยังคงประสบปัญหาฟื้นเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง และยั่งยืน เพราะวิกฤติอสังหาฯ ที่ยืดเยื้อ ผู้บริโภคไม่มีกำลังจ่าย, ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง, หนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้น และเศรษฐกิโลกซบเซา
ส่วนจีดีพีในไตรมาส 4 ของปี 2566 อาจโต 5.3% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าไตรมาส 3 ที่เติบโตระดับ 4.9%
ข้อมูลล่าสุด บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มต้นในปี 2567 ด้วยความสั่นคลอน เพราะแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดต่อเนื่อง และการส่งออกฟื้นตัวเล็กน้อย รวมถึงการกู้ยืมกับธนาคารก็ซบเซาในเดือนธ.ค.2566
เมื่อพิจารณารายไตรมาสแล้ว เศรษฐกิจจีนอาจเติบโต 1% ในไตรมาส 4 ของปีนี้ เมื่อเทียบกับการเติบโตไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.3%
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนเตรียมเผยข้อมูลจีดีพีปี 2566 พร้อมกับข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจเดือนธ.ค. ในวันพุธ (17 ม.ค.67) โดยจีนตั้งเป้าว่าเศรษฐกิจเติบโตประมาณ 5% ในปี 2566 และผู้กำหนดนโยบายยังคงตั้งเป้าเศรษฐกิจปีนี้เติบโตเหมือนปีก่อน
- เตรียมใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ
ธนาคารประชาชนจีน หรือธนาคารกลางจีน ให้คำมั่นเดินหน้าใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ แต่แบงก์ชาติจีนยังเผชิญกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากหนี้สินนั้นไหลไปสู่การผลิตมากกว่าการบริโภค ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันด้านภาวะเงินฝืดมากขึ้น และเครื่องมือนโยบายทางการเงินอาจช่วยเหลือได้ลดลง
โพลนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส คาดการณ์ว่า แบงก์ชาติจีนอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หนึ่งปีที่ 0.1% ในไตรมาสแรก
เวิ่น ปิน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Minsheng Bank เผยว่า แบงก์ชาติจีนอาจปรับลดอัตราเงินสดสำรอง (RRR) ของธนาคารในเดือนมี.ค. - เม.ย. ถ้าแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงซบเซา
นักวิเคราะห์คาดการณ์ด้วยว่า รัฐบาลจีนอาจใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
อ้างอิง: Rueters
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์