เทรดเดอร์คาดเฟดไม่หั่นดอกเบี้ยจนถึงเดือนพ.ค.
ผลสำรวจล่าสุด ระบุว่า เทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงการประชุมเดือนพ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด
ผลสำรวจล่าสุดซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า เทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงการประชุมเดือนพ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด และเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงสนับสนุนให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงจนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อสหรัฐกลับสู่เป้าหมาย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ม.ค.) มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ขณะที่นายออสแทน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกแสดงความเห็นว่า เฟดไม่ควรส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคสหรัฐมีความเชื่อมั่นมากขึ้นนั้น มาจากการที่ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.9% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ซึ่งลดลงจากระดับ 3.1% ในการสำรวจเดือนที่แล้ว
ข้อมูลดังกล่าว รวมทั้งการแสดงความเห็นของนายกูลส์บี ทำให้นักลงทุนปรับลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. โดยเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ณ ช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 47.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. ซึ่งลดลงอย่างมากจากระดับ 81% ในการสำรวจเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้
เฟดได้เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (20 ม.ค.) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 30-31 ม.ค. เพื่อป้องกันไม่ให้สาธารณชนตีความว่าเป็นการบ่งชี้การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินที่จะมาถึง
ทั้งนี้ การที่เฟดเริ่มเข้าสู่ช่วง Blackout Period ทำให้นักลงทุนหันไปจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2566 ในวันพฤหัสบดีที่ 25 ม.ค. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนธ.ค.ในวันศุกร์ที่ 26 ม.ค.