'เยลเลน' รับติดเกม 'Candy Crush' งอมแงม โวตอนนี้ผ่านด่าน 6,100 แล้ว
“เจเน็ต เยลเลน” ขุนคลังสหรัฐ วัย 77 ปี รับติดเกม “Candy Crush” ขนาดต้องเล่นทุกวัน พร้อมขิงตอนนี้เล่นผ่านด่าน 6,100 แล้ว
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้เข้าร่วมรายการ “Wait, Wait Don't Tell Me” ของสถานีวิทยุสาธารณะแห่งชาติหรือเอ็นพีอาร์ (NPR) ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมเปิดใจเกี่ยวกับความหลงใหลที่มีต่อเกมมือถือยอดนิยมอันโด่งดังอย่าง “แคนดี้ ครัช” (Candy Crush) และยอมรับว่าเล่นเกมนี้บนมือถือทุกวัน
นางเยลเลนเข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญในช่วง “Not My Job” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายการดังกล่าว ซึ่งในช่วงนี้ บุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียง และคนดังในวงการบันเทิง จะถูกถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานของพวกเขา
ในเทปบันทึกรายการสดที่เผยแพร่ทั่วประเทศจากนครชิคาโก เมื่อวันเสาร์ (27 ม.ค.) นั้น นางเยลเลนเล่าว่า เธอเริ่มเล่นเกมมือถือมาตั้งแต่สมัยที่เธอใช้มือถือ “แบล็คเบอร์รี่” (Blackberry)
“พวกเขามีเกมชื่อ Brick Breaker และฉันไม่เคยใช้มือถือเล่นเกมมาก่อนเลย จนกระทั่งมาเริ่มติดเล่นเกม Brick Breaker บนแบล็คเบอร์รี่” นางเยลเลน กล่าว
นักเขียนชีวประวัติที่ร่วมช่วยเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวของนางเยลเลน ได้แนะนำให้เธอลองเล่นเกม Candy Crush Saga ซึ่งเป็นเกมแนวพัซเซิล ที่ผู้เล่นจะกดจิ้มลูกกวาดประเภทเดียวกันที่เรียงติดกัน ตั้งแต่ 3 อันขึ้นไป เพื่อให้หายไปจากหน้าจอ และรับแต้มไปเรื่อย ๆ
นางเยลเลนเล่าว่า ตอนนั้นเธอตอบกลับไปว่า “Candy Crush เหรอ ฉันไม่เล่นเกมแบบ Candy Crush หรอก ฉันเล่นเกม Brick Breaker ต่างหาก”
อย่างไรก็ตาม นางเยลเลนยอมรับว่าในที่สุดเธอก็เริ่มเล่น Candy Crush Saga จนถอนตัวไม่ขึ้น พร้อมเสริมว่า เล่นผ่านเลเวล 6,100 แล้ว เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (25 ม.ค.) ที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้คนหลายล้านคนเล่นเกม Candy Crush เป็นประจำทุกวันในระหว่างเดินทาง โดย “คิง” (King) บริษัทผู้พัฒนาเกมสัญชาติสวีเดน ในเครือ “แอคทิวิชัน บลิซซาร์ด” (Activision Blizzard) ประกาศเมื่อเดือน ก.ย. 2566 ว่า Candy Crush Saga สร้างรายได้ไปแล้วกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.12 แสนล้านบาท) นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2555
Candy Crush Saga เป็นเกมที่สามารถดาวน์โหลดมาเล่นได้ฟรี แต่ผู้เล่นสามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อตัวช่วยในเกมได้ หรือกดดูโฆษณาเพื่อเพิ่มจำนวนมูฟในการเล่นแต่ละครั้งได้
อ้างอิง: Reuters