เปิดใจอิสราเอล ‘เมื่อความเข้มแข็งเป็นความผิด’

เปิดใจอิสราเอล ‘เมื่อความเข้มแข็งเป็นความผิด’

สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย จัดงานรำลึกถึงเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสากลประจำปี 27 ม.ค.ของทุกปี เพื่อรำลึก และเป็นเกียรติแก่ชาวยิว 6 ล้านคน ที่ตกเป็นเหยื่อ รองหัวหน้าคณะผู้แทน เปรย "น่าเสียดายที่ประชาคมโลกมองความเข้มแข็งเป็นความผิด"

องค์การสหประชาชาติกำหนดให้ วันที่ 27 ม.ค.ของทุกปี เป็นวันรำลึกถึงเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสากล เพื่อเป็นการรำลึก และเป็นเกียรติแก่ชาวยิว 6 ล้านคน อันประกอบด้วยเด็กๆ 1 ล้านคน และคนอื่นๆ อีก 5 ล้านคน ที่ถูกนาซีสังหารอย่างเป็นระบบ และโหดเหี้ยมในระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 2 

สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย จัดงานดังกล่าวขึ้นในวันที่ 31 ม.ค.67 พิธีเริ่มต้นขึ้นโดยเอกอัครราชทูตอิสราเอล นางออร์นา ซากิฟ, เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเยอรมนี ดร.แอ็นสท์ ว็อล์ฟกัง ไรเชิล และ นางกีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย จุดเทียน 6 เล่ม รำลึกถึงชาวยิวผู้เสียชีวิต 6 ล้านคน

เปิดใจอิสราเอล ‘เมื่อความเข้มแข็งเป็นความผิด’ 0

จากนั้นเอกอัครราชทูตเยอรมนี กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “ทำความเข้าใจสถานการณ์ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และวิธีที่เยอรมนีนำการศึกษามาใช้เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก” ตามด้วยดร.เกลน ชัทเทลิเอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวถึง “วิธีเตรียมนักศึกษาให้เข้าใจเรื่องเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” พิธีจบลงด้วยสุนทรพจน์ของเอกอัครราชทูตอิสราเอล ที่กล่าวถึงผลจากความล้มเหลวในการจัดการศึกษา 

เหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเกิดขึ้นมาแล้วกว่า 80 ปี แต่ทว่า บทเรียนจากความโหดร้ายมิได้หยุดอยู่ในช่วงเวลานั้น กลับยังคงมีความเกี่ยวเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน กล่าวคือ ความเกลียดชัง การไม่ยอมรับความแตกต่าง การสังหารหมู่ และเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ ยังคงเกิดขึ้นอยู่ทั่วโลก เอกอัครราชทูตอิสราเอลกล่าวในระหว่างพิธีว่า “การที่กลุ่มก่อการร้าย ฮามาสบุกเข้ามาโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว ถือเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่เตือนเราว่า ความโหดร้ายเช่นนี้มิใช่เพียง สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตอีกต่อไป ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน ที่จะต้องให้ความรู้แก่คนรุ่นหลัง เพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต”

ยืนยันไม่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา 

วันรำลึกถึงเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสากลปีนี้ถือเป็นปีพิเศษ เนื่องจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในกาซายังดำเนินอยู่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 แอฟริกาใต้ยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจหรือศาลโลก) กล่าวหาว่าอิสราเอลกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา ซึ่งศาลมีคำตัดสินเมื่อวันที่ 27 ม.ค.67ให้อิสราเอลต้องป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ และช่วยเหลือพลเรือนให้มากขึ้น แต่ไม่มีคำสั่งให้อิสราเอลหยุดยิงตามคำฟ้อง 

  อาเรียล ไซด์แมน รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษกรุงเทพธุรกิจ ยืนยันว่า อิสราเอลไม่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างแน่นอน เนื่องจากพรรคการเมืองใหญ่สุดอันดับที่ 3 ของประเทศ เป็นพรรคของชาวอาหรับและมุสลิม ประชากรอิสราเอล 20% เป็นชาวมุสลิม 

“อิสราเอลไม่ต้องการทำอันตรายชาวปาเลสไตน์ในกาซา แต่ต้องการทำลายผู้ก่อการร้ายฮามาส อิสราเอลพยายามหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์ นี่คือ เหตุผลว่า ทำไมอิสราเอลจึงตัดสินใจไม่ทิ้งระเบิดกาซา แต่ใช้ปฏิบัติการทางบกที่ทหารอิสราเอลต้องเสี่ยงชีวิต ในทางกลับกันผู้ก่อการร้ายฮามาสต่างหากครับ ที่ใช้ชาวปาเลสไตน์เป็นโล่มนุษย์”

เมื่อความเข้มแข็งเป็นความผิด

อาเรียลยังเผยความรู้สึกต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ครั้งหนึ่งชาวยิวเคยตกเป็นเหยื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่วันนี้ประชาคมโลกกลับมองอิสราเอลเป็นผู้ร้ายกระทำการเกินกว่าเหตุ

“น่าเสียดายที่ประชาคมโลกมองความเข้มแข็งเป็นความผิด ข้อเท็จจริงที่น่าเศร้าคือ ยังมีบางประเทศ และองค์กรก่อการร้ายบางแห่งมีวาระต้องการฆ่าชาวยิวทุกคนและทำลายล้างรัฐอิสราเอล อิหร่านไม่เคยซ่อนเร้นเป้าหมายนี้ องค์กรตัวแทนอิหร่านอย่างฮามาส ฮิซบุลลา และฮูตีก็เช่นกัน”

อาเรียลกล่าวและว่า การโจมตีวันที่ 7 ต.ค.ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อผู้ก่อการร้ายฮามาสบุกเข้ามาในอิสราเอลด้วยเป้าหมายสังหาร ข่มขืน และลักพาตัวชาวอิสราเอลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ น่าเศร้าที่อิสราเอลถูกบีบให้เข้าสู่สงครามที่ไม่อยากทำ และต้องต่อสู้กับศัตรูชั่วร้ายที่ใช้ผู้หญิงและเด็กเป็นโล่มนุษย์

อิสราเอลกำลังทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปกป้องชีวิตผู้บริษัทบริสุทธิ์ รวมถึงการสู้รบทางบกที่ทหารของตนเองต้องเสี่ยงแก่ชีวิต “แต่แน่นอนกลวิธีอันโหดร้ายของฮามาสคือการบังคับพลเรือนให้เข้าสู่วิถีกระสุน ถ้าไม่ทำไปเพื่อป้องกันการโจมตีจากอิสราเอล ก็ใช้ความตายของผู้บริสุทธิ์โหมประโคมโฆษณาชวนเชื่อของตนเอง” อาเรียลให้ความเห็น 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์