10 สุดยอดคำคม ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ เติมพลังชีวิต ธุรกิจ ลงทุน
ในความเป็นจริง ไม่อาจสรุป “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ซีอีโอเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ บริษัทด้านการลงทุน เป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในภาคการเงิน หากแต่การตัดสินใจเฉียบแหลม ทำให้เขาเป็นที่จับตา เพราะมักลงทุนกับบริษัทที่ภายหลังประสบความสำเร็จระดับโลก
KEY
POINTS
- ในความเป็นจริง ไม่อาจสรุปว่า “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ซีอีโอเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ บริษัทด้านการลงทุน เป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในภาคการเงิน หากแต่การตัดสินใจเฉียบแหลม ทำให้เขาเป็นที่จับตา เพราะมักลงทุนกับบริษัทที่ประสบความสำเร็จระดับโลก
- นี่จึงเป็นเหตุผลที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับคำพูดของบัฟเฟตต์ เพราะสะท้อนแนวคิดและวิธีการตัดสินใจที่นำไปสู่ความสำเร็จ
- คำคมเหล่านี้ ดูเหมือนทำให้คนๆหนึ่ง กลายเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในโลกได้จริงๆ
เมื่อพูดถึงอุตสาหกรรมการเงินที่ประกอบด้วยธนาคารขนาดใหญ่อย่าง เจพี มอร์แกน เชสแอนด์โค และกองทุนเฮดจ์ฟันด์หลายร้อยแห่ง ไปจนถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ที่บริหารการเงินหลายแสนดอลลาร์ จะมีเพียงผู้บริหารไม่กี่คน ได้รับการยกย่องเป็นคนดังประจำภาคธุรกิจการเงิน
ในความเป็นจริง ไม่อาจสรุปได้ว่า “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ประธานบริหารเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ จากกลุ่มบริษัทด้านการลงทุน เป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในภาคการเงิน หากแต่การตัดสินใจที่เฉียบแหลม ทำให้บัฟเฟตต์เป็นที่จับตา เพราะมักลงทุนกับบริษัทที่ประสบความสำเร็จระดับโลก
โดยเฉพาะการที่บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีและเป็นที่รู้จักในนาม “Oracle of Omah” หรือกูรูด้านการลงทุน ได้ให้ความสนใจกับบางบริษัท เมื่อเวลาผ่านไป บริษัทเหล่านั้นได้เติบโตจนกลายเป็นบริษัทใหญ่ระดับโลก
นี่จึงเป็นเหตุผลที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับคำพูดของบัฟเฟตต์ เพราะสะท้อนแนวคิดและวิธีการตัดสินใจที่นำไปสู่ความสำเร็จ
ขณะเดียวกัน คำพูดของบัฟเฟตต์เหมือนสุภาษิตคำสอนในตลาดหุ้น หากคุณเป็นคนชอบอ่านข่าวการเงินตัวยง จะรู้ทันกับคำกล่าวที่ว่า “จงกลัวคนอื่นที่โลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว” นั่นหมายถึงอย่าลงทุนในธุรกิจที่คุณไม่มีความเข้าใจเลย
คำคมเหล่านี้ได้อธิบายตัวตนของบัฟเฟตต์ได้เป็นอย่างดี เหนือสิ่งอื่นใดเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคน ไม่ว่ารายย่อยหรือมืออาชีพ ต้องจดจำไว้เสมอ เพื่อใช้ตัดสินใจซื้อหุ้น และลงทุนทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัทนิโคลา คอร์ปอร์เรชั่น แสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่นักลงทุนทุกคนจะลงทุนในธุรกิจที่พวกเขามีความเข้าใจ หรืออาจต้องลงเอยในการสูญเงินเปล่าในตลาดหุ้น
ดังนั้นคำคมเด็ดทั้ง 10 ประโยคที่คัดเลือกมานี้ ได้สะท้อนมุมมองของบัฟเฟตต์ที่มีต่อชีวิต ความคิดทางการเมือง และธุรกิจที่จะผ่านการทดสอบกาลเวลาว่าสามารถยืดหยัดมาถึงปัจจุบันได้ โดยเริ่มต้นที่
10. “ชื่อเสียงต้องใช้เวลาสร้างขึ้น 20 ปี และสามารถทำลายเพียง 5 นาที ถ้าคิดอย่างนั้น คุณจะทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป"
เมื่อความซื่อสัตย์มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่คำพูดในชีวิตของบัพเฟตต์ แต่ยังรวมถึงธุรกิจ และอาชีพการลงทุนของเขาด้วย
9. “ความแตกต่างระหว่างคนประสบความสำเร็จ กับคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ นั่นคือคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ จะปฏิเสธเกือบทั้งหมด เพราะยังต้องการโอกาส”
ก่อนหน้านี้อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลากล่าวไว้ว่า “เวลาเป็นสกุลเงินเดียวที่เรามีอยู่อย่างแท้จริง” ท่ามกลางคนส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะมีเงินมากขึ้น หากแต่กลับปฏิเสธโอกาสที่จะแสวงหาเวลา
8.“ความเสี่ยงเกิดจากการไม่รู้ว่า กำลังทำอะไรอยู่”
ในเมื่อใครๆก็พูดแย้งได้ว่า นี่เป็นความเสี่ยงใหญ่ที่สุดของพวกเขา ท้ายที่สุดแล้ว คนตาบอดที่ยืนอยู่ขอบหน้าผา หากตกลงไป จะไม่รู้เลยว่าต้องดำน้ำลึกแค่ไหน เมื่อเทียบกับคนที่เรียนรู้มหาสมุทรมาเป็นเวลานาน
7.“วันนี้บางคนได้นั่งอยู่ใต้ร่มเงาไม้ เพราะเขาปลูกต้นไม้ไว้นานแล้ว"
สิ่งนี้เป็นจริงสำหรับพอร์ตการลงทุนของบัฟเฟตต์ เปรียบได้กับต้นไม้คือการลงทุนในบริษัทต่างๆ เช่น อเมริกันเอ็กซ์เพรส และโคคาโคล่า โดยต้นไม้เหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนได้ร่มเงาที่ดี แม้ในช่วงเศรษฐกิจผันผวน
6.“ผมใช้เวลาส่วนใหญ่เกือบทุกวันเพื่อนั่งคิด นั่นไม่ใช่เรื่องปกติของธุรกิจสหรัฐ เมื่อได้อ่านและคิด ผมจะอ่านและคิดมากขึ้น เพื่อการตัดสินใจ”
แนวคิดนี้ดูเหมือนทำให้คนๆหนึ่ง กลายเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในโลกได้จริงๆ
5.“สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำ หากคุณพบตัวเองอยู่ในหลุมคือ การหยุดขุด”
ดังนั้นเราต้องรู้ว่าเมื่อใดควรหยุด ก็เพราะสิ่งนี้มีความสำคัญพอๆกับการรู้ว่า เมื่อใดควรเริ่ม
4. “กฎข้อที่1 ห้ามขาดทุน และกฎข้อที่2 อย่าลืมกฎข้อที่1”
จะเห็นว่าคำพูดนี้จะใช้ได้อยู่ สำหรับคนซื่อสัตย์กับตัวเอง
3.“ผมจะบอกคุณว่า จะรวยได้อย่างไร จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ จงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”
สิ่งนี้จะทำให้คุณแยกแยะสภาพแวดล้อมตลาดหุ้นในปัจจุบันได้ว่า เป็นความโลภหรือความหวาดกลัว เช่น โลภเรื่องเอไอ หรือกลัวอัตราดอกเบี้ย
2.“คุณไม่มีทางรู้เลยว่า สามารถว่ายน้ำได้ จนกว่ากระแสน้ำจะหายไป”
นั่นหมายความว่า ผู้คนสามารถซ่อนธรรมชาติที่แท้จริงของตนได้ แต่เมื่อสภาพการณ์เปลี่ยนไป จะเห็นว่าจริงๆแล้วผู้คนเป็นอย่างไร และจะได้รับการเปิดเผยตัวตนแท้จริง
1.“ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้รับ”
กล่าวอีกนัยหนึ่ง คำพูดนี้กำลังแนะนำว่า ผู้คนควรให้ความสำคัญกับมูลค่าที่พวกเขาได้รับจากการซื้อ มากกว่าเพียงแค่ราคาที่พวกเขาจ่ายเท่านั้น
ที่มา : Insider Monkey